นครศรีธรรมราช : พ่อเมืองคอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ตำบลปากพูน พบปัญหาความล่าช้าทั้งตรวจหาเชื้อ รายงานผล และระบบกักกันตัวกลุ่มเสี่ยง ด้าน สสจ.เผย นักเรียน รร.สอนศาสนา จากยะลา กลับมาแล้ว 11 คน พบติดเชื้อ 2 คน
วันที่ 17 มิถุนายน 2564 นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-29) วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ มากถึง 67 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูง แต่เป็นผลจากการลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการตรวจเชิงลึก และตัวเลขจากห้องปฏิบัติการที่มีการตกค้างมาร่วมด้วย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,258 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล 384 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้วสะสม 856 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สะสมเท่าเดิม 18 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 67 ราย มาจากอำเภอทุ่งใหญ่ 25 ราย, ร่อนพิบูลย์ 17 ราย,เมืองนครศรีธรรมราช 9 ราย, ท่าศาลา 7 ราย, พรหมคีรี, เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม และบางขัน อำเภอละ 1 ราย
สสจ.นครศรีธรรมราช ยังเปิดเผยยอดนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนา ในจังหวัดยะลา เดินทางกลับมาภูมิลำเนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า มีจำนวน 11 คน กระจายอยู่ในอำเภอต่าง ๆ ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 3 คน, ท่าศาลา 3 คน, พรหมคีรี 2 คน, หัวไทร 2 คน และอำเภอร่อนพิบูลย์ 1 คน เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแต่ละอำเภอได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค พร้อมตรวจหาเชื้อ และพบว่าในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ขณะที่ผลการสอบสวนโรคยังพบอีกว่า ในจำนวนนี้มี 9 คน ที่เดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นที่นานกว่า 1 เดือนแล้ว
พ่อเมืองคอน ลงพื้นที่ตำบลปากพูน พบปัญหาความล่าช้า ที่เกิดจากการประสานงานของหน่วยงานต่าง ๆ
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากพูน สาขาบ้านตลาดพฤหัส ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมรับทราบความคืบหน้าการปฏิบัติงานเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งปัญหา อุปสรรค ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาและสถานการณ์โควิด ของตำบลปากพูน ได้รับมีความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้บริหารเทศบาลเมืองปากพูน ที่มีความเข้าใจในระบบการควบคุมโรค ได้จัดทำระบบฐานข้อมูลที่พร้อมสนับสนุนหน่วยงานอย่างดี เจ้าหน้าที่ บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่เอง มีความตั้งใจทุ่มเทต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง มีการเตรียมความพร้อมและรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี แต่ยังมีปัญหาเรื่องระบบการบริหารจัดการข้อมูล และการประสานงานกับหน่วยงานและภาคส่วนที่เข้ามาสนับสนุนภารกิจการสอบสวนโรค ทำให้การตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสัมผัสสูงที่อาจจะมีความล่าช้าไปบ้าง รวมทั้งความล่าช้าในขั้นตอนการรายงานผลจากการตรวจหาเชื้อในห้องปฏิบัติการ และการจัดระบบการกักกันตัวกลุ่มเสี่ยง ที่ยังมีช่องว่างระหว่างหน่วยงาน ส่งผลให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมีจุดอ่อนอยู่
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้รับทราบถึงการบริหารจัดการของเทศบาลเมืองปากพูน ที่ได้จัดทำระบบฐานข้อมูล ที่มีรายละเอียดครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง ทั้งในส่วนของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในชุมชน กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้าน/ครอบครัว และกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในที่ร่วมงาน จึงค่อนข้างมั่นใจว่าพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็ววัน
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
นครฯ-ปิด! อีกหมู่บ้านคุมโควิดทุ่งใหญ่ ‘บ้านคงคาเลียบ’ ขณะรองปลัด สธ. ย้ำ เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค
