กระบี่-ตร.เร่งล่าตัวมือปาระเบิดบ้านสาวที่กระบี่ วงจรปิดจับภาพ ลูกผู้เสียหายเชื่อเป็นอริที่กำลังมีปัญหากัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค.66 พ.ต.ท.สัญญา ธรรมรัตน์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ นำทีมชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในซอยเกียรติกุล ต.ปากน้ำ หลังเมื่อช่วงเวลา ตี 2 ครึ่ง ของวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้าย คาดว่าเป็นวัยรุ่นคึกคะนอง ใช้ระเบิดชนิดทำเอง ปาใส่บ้านของ นางทิพาภรณ์ บุญรอด อายุ 52 ปี เลขที่ 50/7 ภายในซอยดังกล่าว จนได้รับความเสียหาย โดยบ้านเกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างหน้าบ้านพบกระจกแตกเป็นวงกว้างประมาณ 1 เมตร กรอบกระจกอลูมิเนียมถูกแรงระเบิดฉีกเป็นรู และยังพบเศษชิ้นส่วนระเบิดเป็นเศษพลาสติก โดยระเบิดเป็นชนิดทำเอง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพช่วงเวลาที่เกิดเหตุ จะมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง เป็นภาพที่บันทึกโดยกล้องวงจรปิดของร้านใกล้กับบ้านเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบรถ จยย.ต้องสงสัย ที่มีเด็กวัยรุ่นซ้อนกันมา 2 คน ขี่มาจอดใกล้กับบ้านเกิดเหตุ ก่อนจะเข็นรถถอยหลังกลับไป จากนั้นไม่นานรถ จยย.คันดังกล่าว ก็ขี่กลับมาทางเดิมมุ่งหน้ากลับออกไปปากซอย ซึ่งตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นคนที่มาก่อเหตุหรือไม่ จากการสอบถามนางทิพาภรณ์ เจ้าของบ้าน เล่าว่า คืนเกิดเหตุ เวลาประมาณตี 2 ครึ่ง ได้ยินเสียงดังสนั่น ตกใจตื่นแล้ววิ่งลงมาดู ก็พบว่ากระจกบ้านแตกหมดจึงเรียกลูกๆ ลงมา ก่อนจะโทรศัพท์แจ้ง ตร.มาตรวจสอบ
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ลูกสาว ของนางทิพาภรณ์ เล่าว่า สาเหตุที่ถูกปาระเบิดใส่บ้านนั้น น่าจะเกิดจากการที่ตนเองมีปัญหาไปทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่งในเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และได้เคลียร์กันจบไปแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจบ ยังโพสต์เฟซบุ๊กลงเรื่องราวตนเอง จึงทักไปหาพ่อของคู่กรณีขอให้จบเรื่องได้แล้ว แต่ทางหญิงรายดังกล่าวยังไม่ยอมจบ กระทั่งคืนดังกล่าวก็มีรถมาปาระเบิดใส่ ซึ่งดูจากรูปในกล้องแล้วมีความคล้ายกันมาก ซึ่งคนก่อเหตุน่าจะเป็นแฟนของหญิงรายดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้นเพราะมาจากเรื่องที่ไม่เข้าใจกันเกิดการนินทากันไปมา ทางฝ่ายคู่กรณีโฟสต์กล่าวหามาตลอดจนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เบื้องต้นทางตำรวจชุดสืบสวน กำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เป็นอริกับลูกสาวเจ้าของบ้าน จะเชิญตัวมาสอบสวนอีกครั้ง.
