กรุงเทพฯ : รองผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่ตรวจแพล้นท์ปูน ย่านลาดพร้าว เข้มมาตรการลดฝุ่น PM 2.5 เผย 133 แห่ง ทั่ว กทม.สั่งปิดไปแล้ว 14 แห่ง ย้ำสถานประกอบกิจการควรฟังและปฏิบัติตามกฎมาตรฐานอย่างเคร่งครัด ฝ่าฝืน ไม่มีละเว้น
8 ก.พ.66 นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางสุภาพร ศรีศาสนวงศ์ ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว และคณะผู้บริหาร ร่วมลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่บริเวณแพลนท์ปูน SCG ซอยลาดปลาเค้า 52 เขตลาดพร้าว โดยนายจักกพันธุ์ ได้ตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบกิจการจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมดูแลของแพล้นท์ปูน พร้อมทั้งเดินตรวจสอบพื้นที่ภายในโดยรอบ และสุ่มตรวจวัดค่ามาตรฐานควันดำของรถโม่ปูนที่ใช้งานอยู่ ก่อนสั่งการให้สถานประกอบการแพล้นท์ปูน ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในบางจุดที่ยังบกพร่อง ที่อาจก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศได้
นายจักกพันธุ์ ให้ข้อมูลว่า ในพื้นที่ กทม.มีแพล้นท์ปูนทั้งหมด 133 แห่ง โดยมอบหมายให้ผู้อำนวยการเขต เป็นผู้รับผิดชอบลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อย อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง พร้อมรายงานผลและความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าแพล้นท์ปูนใดมีข้อบกพร่อง ให้ ผอ.เขต สั่งการแก้ไข หากลงพื้นที่ตรวจซ้ำรอบ 2 แล้วยังไม่แก้ไข จะถูกสั่งปิดทันที ซึ่งที่ผ่านมา สั่งปิดไปแล้ว 14 แห่ง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตาม ล่าสุดในพื้นที่เขตทวีวัฒนา
สำหรับในพื้นที่เขตลาดพร้าวมีแพล้นท์ปูนทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งแพล้นท์ปูนที่ลงมาตรวจสอบในวันนี้ พบว่ามีบางจุดจะต้องปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะแนวรั้วตาข่ายกันฝุ่น ยังมีบางจุดที่ไม่เรียบร้อย ซึ่งตามมาตรฐานความสูงจะต้องอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร หากกรณีรั้วทึบความสูงส่วนใหญ่ประมาณ 2 เมตร อีก 4 เมตรขึ้นไปก็จะเป็นรั้วโปร่ง รวมถึงโดยรอบพื้นที่ยังไม่มีสเปรย์น้ำเพียงพอ ประกอบกับบริเวณพื้นบางจุดยังไม่เรียบพอ อาจก่อให้เกิดน้ำขังได้ จึงได้สั่งการให้ทางผู้ควบคุมดูแลแพล้นท์ปูนแก้ไข โดยเฉพาะจุดช่องว่างของตาข่ายกันฝุ่นต้องแก้ไขทันที
รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า แพล้นท์ปูนทุกแห่งจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกัน ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศ รวมถึงด้านความปลอดภัย ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมค่าฝุ่น PM 2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ควรตรวจสอบเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำให้สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณพื้นที่โดยรอบแพลนท์ปูนตลอดเวลา หมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อล้างล้อรถโม่ปูนก่อนเข้า-ออกจากแพลนท์ปูน ตรวจสอบวัดควันดำรถโม่ปูนอย่างสม่ำเสมอ
ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแพล้นท์ปูนแห่งนี้ให้ข้อมูลว่า ปริมาณการผลิตแต่ละวันอยู่ที่ 140 คิว หรือประมาณ 20 เที่ยวต่อวัน มีรถโม่ 14 คัน แบ่งเป็นรถโม่ใหญ่ 10 คัน โม่เล็ก 4 คัน ในแต่ละวันทางแพล้นท์ได้ฉีดพ่นน้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง เช้าและเย็น รอบเช้าฉีดเวลา 05.30 น. รอบเย็นไม่เสมอไป ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิต หากวันไหนผลิตน้อยรอบเย็นก็อาจจะไม่ได้ฉีด แต่ช่วงเช้าฉีดทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ที่ผ่านมา เคยมีการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรก ๆ ซึ่งทางแพล้นท์ได้นำข้อร้องเรียนทุกเรื่องมาปรับปรุงแก้ไข ปัจจุบัน สามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้ โดยเปิดรับข้อร้องเรียนปัญหาจากทุกคน
ส่วนข้อแนะนำของ กทม.ที่เข้ามาตรวจในวันนี้ มีเรื่องของตาข่ายที่ต้องปรับปรุงแก้ไข จุดด้านหน้าประตูทางเข้า ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมี แต่ต้องนำออกไป เพราะอยู่ชิดกับหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งทางแพล้นท์จะต้องออกแบบโครงของตาข่ายใหม่ ให้สามารถติดตั้งได้โดยไม่เสี่ยงอันตรายกับกระแสไฟ ตามคำแนะนำของ กทม. รวมถึงการเพิ่มสเปรย์หมอกในลานพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม
อ่านรายละเอียดของข่าวที่เกี่ยวเนื่องได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ :
