จากกรณีหนุ่มวัย 31 ปี ถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นปิดหมู่บ้านรุมตียับ หน้าเสียโฉมหมอเย็บเกือบร้อยเข็ม ล่าสุด พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู ยืนยันมอบตัวแล้ว 3 รายส่วนที่เหลือ อยู่ระหว่างติดตามคาดได้ตัวเร็ว ๆ นี้
อ่านข่าว หนุ่มถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นปิดหมู่บ้านรุมตียับ หน้าเสียโฉมเย็บเกือบร้อยเข็ม
อ่านข่าว คืบหน้า หนุ่มถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นปิดหมู่บ้านรุมตียับ ล่าสุดตำรวจรู้ตัวหมดแล้ว
จากกรณีหนุ่มวัย 31 ปี ถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นปิดหมู่บ้านรุมตียับ หน้าเสียโฉมหมอเย็บเกือบร้อยเข็ม โดยเหตุเกิดขึ้นที่ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรโครงการ 14 ถนนแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดชายผู้บาดเจ็บยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในวันนี้ที่ 7 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่าตั้งแต่เกิดเหตุก็ได้มีการเรียกประชุมชุดสืบสวน ได้มีการมอบหมายให้มีการเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุด และจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจนทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นและตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด ก่อนนำมาทำผังให้เห็นชัดเจนว่ามีใครทำอะไรบ้างรถทั้งรถทั้งมาก่อเหตุ รวมสรุปแล้วว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุอยู่ในกลุ่มทั้งหมดประมาณ 10 คน ส่วนคนอื่น ๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องก็มีจำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันการกระทำผิด หลังจากนั้นเราได้เข้ากดดันทางญาติและที่ทำงานเนื่องจากผู้ก่อเหตุหลบหนี จนกระทั่งเมื่อคืนนี้เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษทางผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายตาม อายุ 26 ปี น.ส.หมวย อายุ 23 ปี ที่ขับรถกระบะตู่ทึบมา และนายนุ อายุ 21 ปี ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มา ได้ย่องเข้ามอบตัวกลางดึกกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากรถเก๋งของผู้เสียหายถูกทุบจนบุบ ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและการสอบสวนทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 10 คน ตอนนี้เราได้มา 3 คนแล้วเหลืออีกประมาณ 7-8 คน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น จากการสอบสวนทราบว่าน่าจะเป็นเรื่องหึงหวง ในขณะที่เข้าไปนั่งดื่มกันในร้านอาหารและมีการโทรศัพท์ตามพรรคพวกกันมาดักรอที่ด่านนอก และมีการขับรถเพื่อจะหนีกลุ่มแรก แต่กลับไปเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น และหลบหนี้ก็ทำให้เกิดกลุ่มใหม่ขึ้นมาอีกตามหลังมาอีกกลุ่มหนึ่ง ก็เลยทำให้เห็นว่ามีจำนวนคนที่มากมาย ซึ่งตนก็ขอยันยันว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้มีอิทธิพล หรือเป็นขาใหญ่ ตามข่าวที่มีการเสนอไปแล้ว และยืนยันว่าจะติดตามผู้ที่ร่วมก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
