X

พบพระเด็จแล้วหายไป 1 เดือน อาศัยในถ้ำกลางป่ากินหยวกกล้วยประทังชีวิต

พิษณุโลก ผบก.ภ.จว.พิษณุโลกเข้าเยี่ยมพระเด็จ มาพักฟื้นร่างกายที่รพ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย หลังชาวบ้านช่วยตามหาจนพบตัวในถ้ำกลางป่าและช่วยกลับมาได้อย่างปลอดภัย พระเด็จเผย ช่วงหลงป่า เจอผู้ชาย 2 คน บอกให้ไปตามเส้นทางเดินและไปรออยู่ในถ้ำแล้วจะมีคนมาตามหาเอง จึงไปพักอาศัยกินหยวกกล้วย ปลีกล้วย ไฟแช็คที่เตรียมมา 5 อันใช้หมดไป 4 อัน

เวลา 09.30 น. วันที่ 19 มกราคม 2562 หลังจากทีมค้นหาที่ประกอบด้วยชาวบ้าน ตำรวจ  ฝ่ายตกครอง ผู้ใหญ่บ้านม.4 ม.5 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สามารถพบตัวพระสมเด็จ เปสโล (คงกระพันธุ์) อายุ 56 ปี พระลูกวัดของวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่หายตัวไปบนเทือกเขาผาขี่ควายตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยทีมค้นหาได้ไปพบตัวพระเด็จในถ้ำกลางป่าทึบ ห่างจากเทือกเขาผาขี่ควายที่พระเด็จตั้งใจเดินไปประมาณ 5 กิโลเมตร จากนั้นชาวบ้านและทีมค้นหาได้พาตัวพระเด็จเดินลงเขา และพาไปส่งที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย เพื่อตรวจเช็คร่างกายและพักฟื้นร่างราย .ซึ่งเบื้องต้นพระเด็จมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงดี มีสติดี สามารถพูดจาตอบโต้ได้ดี มีแต่เพียงน้ำหนักตัวที่ลดลงไปมาก

เช้าวันนี้ คณะของผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ที่ประกอบด้วยพล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร รองเสธ.ม.ทบ.39 พิษณุโลก     ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากพิษณุโลก มายังตำบลบ้านพร้าว อ.นครไทย และเดินทางที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทยทันที โดยนำกระเช้าสุขภาพของผบช.ภ.6 และ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 39 พิษณุโลก มอบให้พระสมเด็จ พร้อมให้กำลังใจ ซักถามถึงเหตุการณ์การหายตัวที่ผ่านมาถึง 1 เดือน 2 วัน โดยบอกว่า วันนี้ ตำรวจตั้งใจนำเฮลิคอปเตอร์มาร่วมกับญาติเพื่อเตรียมบินค้นหาพระสมเด็จอยู่แล้ว แต่ทีมค้นหาของชาวบ้านมีความชำนาญกว่ามาก และพบตัวพระสมเด็จ สามารถช่วยกลับมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้ก็สิ้นสุดของการค้นหา ขอแสดงความยินดีกับพระสมเด็จและครอบครัวด้วย

พลตำรวจตรีถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า โดยในทางคดีนั้น ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไรแต่อย่างใดเพียงแต่เจ้าหน้าที่ร่วมติดตามค้นหาพระสมเด็จ ขณะที่พระอำนาจ พระลูกวัดอีกคน ได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ทำการ สอบสวนหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ

พระสมเด็จ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงวันที่ 17 ธันวามคม 2561 ตั้งใจขึ้นไปเขาผาขี่ควาย ตั้งใจขึ้นไปสวดมนต์บนเขา โดยเดินตามพระอำนาจไปตลอด แต่ร่างกายตนไม่แข็งแรง จึงเดินรั้งท้าย และตั้งใจเลี้ยวซ้ายว่าจะกลับวัดบ้านพร้าว แต่ก็เดินไกลบนเขาเข้าป่าไปเรื่อย อาศัยกินหยวกกล้วย ปลีกล้วย ยอดหวาย มีแต่ป่า กระทั่งช่วงหนึ่งหลังจากเดินหลงป่ามาเจอกับผู้ชาย 2 คนใส่ชุดดำ บอกให้หาถ้ำ ตนก็เดินไปตามทางที่ผู้ชายสองคนเขาบอก บอกให้ไปอยู่ในถ้ำ เดี๋ยวจะมีคนมารับ จากนั้นทั้งคู่ก็หายไป ไม่ได้พบกันอีก ในถ้ำก็มีหม้อด้วย  และตนนำไฟแช็คไป 5 อัน ก็ใช้จุดก่อไฟอาศัยในถ้ำ ต้มหยวกกล้วย จนไฟแช็คหมดไป 4 อัน กระทั่งเช้าวันนี้ประมาณ 04.30 น. ทีมค้นหาที่เป็นชาวบ้าน 4 คนก็ไปพบตนในถ้ำ และพากลับลงมาข้างล่าง ไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณกันได้อย่างไร รู้สึกดีใจมาก ที่ได้กลับลงมาได้พบครอบครัว จากนี้ก็จะกลับไปจำวัดต่อที่วัดบ้านพร้าว

อนึ่ง ที่ผ่านมาหลังจากพระเด็จหายไปเมื่อ 17 ธ.ค.2561 ทุกฝ่ายได้ค้นหามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 19 ธ.ค.2561 แต่ก็ไม่พบ นางบุญศรี  ขำมี และ น.ส.ช่อเพชร  นวลวัน ภรรยาและบุตรสาวของพระสมเด็จ ได้เข้าร้องเรียนต่กองปราบ ผบ.ทบ. ผบช.ภ.6 และ ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อคลี่คลายการสูญหาย สุดท้ายก็พบว่าหลวงตาหลงป่าไปเอง ขณะนี้ทีมค้นหากำลังพาพระเด็จกลับลงมายังวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก

……………………………………..

ขอบคุณภาพประกอบ ทีมข่าวนกกระจอก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

มงคลเชาวราช ทั่งมั่งมี

มงคลเชาวราช ทั่งมั่งมี

เกิดพิษณุโลก เรียนพิษณุโลก และขอปักหลักใช้ชีวิตที่พิษณุโลก มีประสบการณ์งานข่าวในพิษณุโลกร่วม 20 ปี จากการเป็นผู้สื่อข่าวให้กับทีวี และสื่อสิ่งพิมพ์หลายแขนง มีความมุ่งมั่นทำเว็ปไซด์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านข้อมูลข่าวสารแก่ชุมชนคนพิษณุโลก