ฉะเชิงเทรา – หกล้อเทกระจาด 15 แรงงานจับไก่ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่หลังเกิดเหตุนับจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บลดลงเหลือเพียงแค่ 10 รายทำ จนท. ตรวจสอบกันวุ่น เชื่อเป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่แอบข้ามประเทศเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย จึงแอบหลบหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากที่เกิดเหตุระหว่างช่วงการชุลมุนเข้าช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่
วันที่ 7 พ.ค.67 เวลา 12.30 น. ร.ต.ท.เฉลิมพล สาธรรม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุก 6 ล้อขนาดใหญ่บรรทุกคนงานพร้อมอุปกรณ์จับไก่ตามฟาร์มเลี้ยงไก่ พลิกคว่ำท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาในพื้นที่อย่างหนัก บนถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 3076 เส้นทาง พนมสารคาม-บ้านสร้าง พื้นที่ ม.13 ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงเดินทางไปสอบสวน ยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณทางโค้งทางเข้าหมู่บ้านยางปุ่ม ริมเส้นทางฝั่งซ้ายมุ่งหน้าไปยัง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางโค้งขวา พบรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูซุหัวสีขาว หมายเลขทะเบียน 70-5872 มหาสารคาม พลิกคว่ำในลักษณะนอนล้มตะแคงข้าง จนทำให้อุปกรณ์ในการจับไก่และคนงานที่ได้รับบาดเจ็บกระเด็นออกมาอยู่นอกตัวรถจำนวนหลายราย โดยมีอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม กำลังให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.ราชสาส์น รวม 10 ราย
สอบถามนายสมปอง ลาดสลุง อายุ 39 ปี ชาว ม.4 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี คนขับรถเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพาคนงานจำนวน 14 คนรวมตนเองด้วยเป็น 15 ชีวิตไปรับจ้างจับไก่ในฟาร์มเลี้ยงไก่ยังในเขต จ.ชลบุรี ก่อนที่จะเดินทางกลับเพื่อมุ่งหน้าไปยัง จ.สระบุรี เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุได้เกิดมีฝนตกสาดลงมาใส่กระจกบานหน้ารถอย่างหนัก จนมองไม่เห็นเส้นทางซึ่งเป็นทางโค้ง จึงได้พยายามที่จะเหยียบเบรกเพื่อชะลอหยุดรถ แต่รถได้เกิดการเสียหลักลื่นไถลหมุนไปตามเส้นทางก่อนที่จะพลิกคว่ำตกถนนไปดังกล่าว
ขณะนายเอกชัย (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังขับรถออกมาจากซอยในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นทางสามแยกตัววาย “Y” ใกล้กับที่เกิดเหตุ ได้เห็นรถบรรทุกคันดังกล่าวเสียหลักหมุนอยู่บนถนนหลายตลบประมาณ 4-5 รอบก่อนที่ตัวจะพลิกคว่ำปลิวตกถนนลงไปในที่สุด ขณะที่กำลังมีฝนตกลงมา แต่โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นายเอกชัย กล่าว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บกลับพบว่า เหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.ราชสาส์น เพียง 10 รายเท่านั้น ส่วนอีก 5 รายได้หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ท่ามกลางความงุนงงของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยฯ ที่เดินทางไปให้การช่วยเหลือยังในที่เกิดเหตุ และหลังทำการตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนงานชาวไทยจำนวน 7 รายคนขับรถ 1 ราย
ส่วนอีก 2 รายเป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) วัย 45 ปีและ 53 ปี ที่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ ซึ่งมี 1 ใน 2 รายนี้ คือ ชายวัย 53 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้าและขาซ้ายหัก ขณะผู้ได้รับบาดเจ็บรายอื่นๆ เป็นชาวไทยประกอบด้วย น.ส.อารียา เสนาะกลาง และ น.ส. น.ส.อารีสา เสนาะกลาง อายุ 18 ปี 9 เดือน ชาว ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ น.ส.สุจิตตรา ดั้งขุนทด อายุ 25 ปี ชาว ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
นายจักรภพ พันธุ์โยสี อายุ 20 ปี ชาว ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ นายมงคล ก้านอินทร์ อายุ 20 ปี 11 เดือน ชาว ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายสุรเดช จิตราช อายุ 17 ปี 11 เดือน ชาว ต.นาโสม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี น.ส.วาสนา ทองพูล อายุ 20 ปี ชาว ต.เกษตรสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี และนายสมปอง ลาดสลุง อายุ 39 ปี เป็นคนขับรถ
