X

สระแก้ว ชาวบ้านป่าไร่ยืนยันจะเข้าทำกินที่ดินของตนเอง หลังเขมรบุกข้ามแดนมาล้อมจับและยิงปืนฝั่งไทย

สระแก้ว – ชาวบ้านยังยืนยันที่จะเข้าไปทำกินในที่ดินของตัวเอง บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมี ตชด.กัมพูชา บุกมาล้อมจะจับกุมและยิงใส่คนไทยเมื่อ 2 วันก่อน

เมื่อวันที่ 16 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกันจณา สามล เจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ซึ่งตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งตะวันออกของถนนศรีเพ็ญ ทางหลวงหมายเลข 3446 อรัญประเทศ-ตาพระยา พื้นที่ ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยืนยันที่จะเข้าไปทำกินในที่ดินของตัวเองบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังชาวบ้านเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก จ.สระแก้ว โดยมี นายสุพจน์ เขียนโพธิ์ อายุ 54 ปี ในฐานะผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ฯ ได้รับมอบอำนาจจาก นายสมชาย ทิศกระโทก อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 8 ต.ปาไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน แจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.66 เวลาประมาณ 10.40 น. หลังนายสมชาย ทิศกระโทก พร้อมพวก รวม 5 คน ได้เข้าไปทำงานอยู่ในแปลงที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ของตนเอง ซึ่งตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนั้น ได้มีกองกำลังต่างชาติกัมพูชาคือหน่วย ตชด 911 นำโดยผู้กองเจมส์ฯ พร้อมพวก จำนวน 9 นาย พร้อมอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด ข้ามเส้น Mou แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บุกเข้ามาในที่ดินดังกล่าว ที่นายสมชายฯ พร้อมพวกกำลังทำงานอยู่ และพยายามจับกุมตัวนายสมชายฯ พร้อมพวก และได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่นายสมชาย จำนวน 3 นัด

ทั้งนี้ เธอบอกว่า กระสุนปืนของ ตชด.กัมพูชา ไม่ถูกนายสมชาย และพวก แต่ได้ทิ้งเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง ไว้ในที่ดินของตนเอง แล้วได้พากันวิ่งหลบหนี หลังจากนั้น หน่วย ตชด 911 ของกัมพูชา ได้เข้ามานำเอาเลื่อยโซ่ยนต์เครื่องดังกล่าว แล้วได้พากันเดินทางกลับเข้าไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา และยังมีบางส่วนยังอยู่ท้ายที่ดินแปลงดังกล่าว แต่ก็ยังอยู่ในเขตฟื้นที่ประเทศไทย จึงแจ้งให้ นายสุพจน์ เขียนโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ป่าไร่ เพื่อเดินทางไปแจ้งความไว้เห็นหลักฐาน

เหตุการณ์ดังกล่าว นายสุพจน์ เขียนโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ป่าไร่ บอกว่า ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายสมชายฯ ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี กับผู้กองเจมส์ฯ ตชด.911 กัมพูชา พร้อมพวกของหน่วย ตชด.911 รวมจำนวน 9 คน ตามกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมา ตชด.กลุ่มดังกล่าวเคยลุกล้ำข้ามเส้น Mou ปี 2543 มาขับไล่ชาวบ้านหลายครั้ง โดยอ้างว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนของประเทศกัมพูชา และมีเขตแดนมาถึงบริเวณริมถนนศรีเพ็ญ และบริเวณดังกล่าวเกิดปัญหาการกีดกันไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินในที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ ได้เอกสารสิทธิ์ในสมัยที่บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านน้อยป่าไร่ เมื่อปี 2504 และ ปี 2505 ก่อนการประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติเมื่อปี 2507 ด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งกลุ่มธุรกิจสีเทาใช้เป็นเส้นทางลักลอบขนสินค้าหนีภาษี แรงงานต่างด้าวและสิ่งผิดกฎหมาย จึงไม่ต้องการให้ชาวบ้านเข้าไปครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว

ล่าสุด นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศคนใหม่ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสอบสวนและรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมกับระบุว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับรายงานว่า นายสมชาย ทิศกระโทก พร้อมพวก จำนวน 5 คน ได้นำเลื่อยโซ่ยนต์เข้าไปทำงานในแปลงที่ดินใบจองของ นางกันจณา สามล ซึ่งติดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ขณะนั้น ได้มีกองกำลังต่างชาติกัมพูชาคือหน่วย ตชด. 911 จำนวน 9 นาย พร้อมอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด บุกเข้ามาในที่ดินดังกล่าว ที่นายสมชาย ทิศกระโทก พร้อมพวกกำลังทำงานอยู่ และพยายามจับกุมตัว โดยได้ยิงเข้ามาในพื้นที่ จำนวน 3 นัด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ นายสมชาย ทิศกระโทก พร้อมพวกต่างพากันวิ่งหลบหนีออกจากพื้นที่ หลังจากนั้น นายสุพจน์ เขียนโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านป่าไร่ใหม่ ได้นำชุด ชรบ. จำนวน 5 นาย พร้อมอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว อ้างปกป้องลูกบ้าน แต่ไม่มีการปะทะระหว่างกัน

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองพร้อมด้วย นายธีรวุฒิ เด็นหมาด ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.13 ได้เจรจากับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ทราบว่า นายสมชาย ทิศกระโทก พร้อมพวก จำนวน 5 คน ได้เข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวจริง และมีกองกำลังต่างชาติกัมพูชา เข้ามาตามที่รายงานข้างต้นจึงได้สอบถามเหตุผลของชาวบ้านที่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะก่อนหน้าที่ได้ตกลงกันว่า ห้ามมิให้นำเครื่องยนต์หรือเลื่อยโซ่ยนต์ทุกชนิดเข้าไปในพื้นที่ แต่ชาวบ้านต่างให้เหตุผลว่า ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินอรัญประเทศ จะเข้ามารังวัดสอบเขตออกเอกสารสิทธิ์ ให้แก่ชาวบ้าน แต่ในพื้นที่นั้น ต้องใช้ประโยชน์ไปแล้ว 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด มิเช่นนั้น จะไม่สามารถออกรังวัดโฉนดที่ดินให้ได้ จึงส่งผลให้ชาวบ้านต่างพากันมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงได้ขอความร่วมมือกับพี่น้องชาวบ้าน ห้ามมิให้ดำเนินการใด ๆ หรือห้ามนำเครื่องยนต์ทุกชนิดเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จนกว่าจะมีการออกสอบแนวเขตรังวัดที่ดินเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ชาวบ้านร่วมมือและตกลงจะหยุดการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จนกว่าจะมีการสอบแนวเขตรังวัดที่ดินเสร็จสิ้นเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม นางกันจณา สามล เจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 หนึ่งในผู้เดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว ยังยืนยันกับทีมข่าวว่า จะเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเอง เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินให้ได้ 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมดตามกฎหมาย มิเช่นนั้น จะไม่สามารถออกรังวัดโฉนดที่ดินให้ได้ โดยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะเข้ามารังวัดสอบเขตออกเอกสารสิทธิ์ ให้แก่ชาวบ้านตามที่ได้ยืนร้องขอไป

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"