X

ปราจีนบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 รวมเป็น 4 ราย

ปราจีนบุรี – พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ(โควิด-19) เพิ่มอีก 1 รวมเป็น 4 ราย เคยทำงานในร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษ และเดินทางกลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG911 พร้อมด้วยสามี และลูกอีก 2 คน

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 3 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม 402 ศูนย์การเรียนรู้ชั้น 4 ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี และพญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ( COVID-19) โดยนายพิบูลย์ กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ขอรายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดปราจีนบุรี ประจำวันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 15.30 น.ข้อมูลส่งตรวจหาเชื้อ สะสม 62 ราย ไม่พบเชื้อ 56 ราย รอผล 2 ราย ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 4 ราย โดยวันที่ 3 เม.ย.จังหวัดปราจีนบุรี พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น จำนวน 1 ราย เพศหญิง อายุ 47 ปี รวมมีผู้ป่วยยืนยันสะสมในพื้นที่ขณะนี้ 4 ราย อยู่ในจำนวนผู้ป่วยยืนยัน ที่กระทรวงสาธารณสุขแถลง

สำหรับผู้ป่วยรายล่าสุดของ จ.ปราจีนบุรี เป็นผู้ที่ทำงานในร้านอาหาร ณ สหราชอาณาจักร หรือประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่อง ตามที่กรมควบคุมโรคประกาศและมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ และจากการสอบสวนโรค ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า ทำงานในร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษ และเดินทางกลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG911 พร้อมด้วยสามี และลูกอีก 2 คนและได้เหมารถตู้เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กลับภูมิลำเนา ที่อำเภอบ้านสร้าง โดยไม่ได้เดินทางไปยังสถานที่อื่น ด้วยทราบว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักกันตัวอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันที่ 31 มีนาคม 2563 หญิงรายดังกล่าวเริ่มมีอาการป่วย และได้โทรประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ นำรถมารับไปตรวจที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต่อมาผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบว่า เจ้าของร้านอาหารคนไทยที่ผู้ป่วยทำงานด้วย เป็นผู้ป่วยยืนยันที่รับการรักษาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับมาตรการเร่งด่วนที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประสานการดำเนินงาน ได้แก่ ดำเนินการเฝ้าระวัง ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ประกอบด้วย สามี ลูกชายและลูกสาว รวม 3 คน เฝ้าสังเกตอาการโดยกักกันตัวที่บ้าน (Home Quarantine) ติดตามวัดอุณหภูมิและอาการเจ็บป่วยระบบทางเดิน หายใจทุกวัน รวม 14 วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ประกอบด้วย ผู้เดินทางเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วย ได้แก่ ที่นั่งสองแถวหน้า-สองแถวหลัง และคนขับรถตู้เหมา ที่รับผู้ป่วยจากสนามบินมาบ้านพัก กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการ ติดตามให้เข้ารับการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ณ สถานพยาบาลในพื้นที่ และแจ้งให้กักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังอาการ

นายพิบูลย์ กล่าวอีกว่า ทาง จ.ปราจีนบุรี ได้ออกประกาศมาตรการและมีคำสั่งให้ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว 4 ฉบับ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการดูแลตนเอง และเพิ่มระยะห่างระหว่างกัน (Social Distanding) ด้วย โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ขอให้ประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีร่วมปฏิบัติตน ในการป้องกันโรคตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนฉัน หมั่นล้างมือ งดเที่ยว สังสรรค์ ห่างกัน 2 เมตร

ทางด้าน นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อได้รับการแจ้งโรคจากทางโรงพยาบาลได้เตรียมรองรับบุคคลทั้ง 4 จากประเทศอังกฤษเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีการกักตัวล่วงหน้าและกลับมาถึงเมืองไทยวัดไม่มีไข้ เมื่อมีอาการมีไข้ ระบบทางเดินหายใจ จึงประสาน รพ.บ้านสร้าง นำส่งต่อ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ขณะเดียวกัน พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ขอแจ้งข่าวดีว่าผู้ป่วยโควิด-19 ที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลของเรา 3 คนแรกนั้นตอนนี้อาการดีขึ้นเป็นลำดับและพร้อมที่จะกลับบ้านและกักตัวที่บ้านต่อได้ และขณะนี้จังหวัดปราจีนบุรีเรามีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย (รวมเป็น 4 ราย) เป็นคนไทยที่กลับจากประเทศอังกฤษ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังมีอาการไอและเหนื่อยเล็กน้อย ส่วนคนใกล้ชิด ซึ่งมาจากประเทศอังกฤษด้วยกัน ก็กักกันตัวเองดูอาการอยู่ที่บ้าน

อย่างไรก็ตาม พญ.โศรยา กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลของเราในเรื่องการขึ้นเวร ดังนั้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มาทำงานในช่วงเวลาเคอร์ฟิวให้ยึดหลัก 3 พกคือพกบัตรประจำตัวประชาชน พกบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล พกตารางเวร เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่ขอตรวจ ส่วนผู้ที่มีญาติมารับส่งขอให้ญาติพกสำเนาบัตรประจำตัว เจ้าหน้าที่ รพ.ของท่านและสำเนาตารางเวรของท่านไว้ เพื่อยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ ขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตัว universal precaution อย่างเคร่งครัดต่อไป

—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"