X

โผล่อีก!! ที่ดินท่าอุเทน ออกโฉนด ทับที่ชาวบ้านยังน้อยไป ประเคนถนนหลวงพร้อมหนองน้ำขายให้นายทุน

นครพนม – ความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ที่ดินได้ออกเอกสารสิทธิ์ให้นายทุน โดยทับที่ดินสาธารณะประโยชน์ ประกอบด้วยทำเลเลี้ยงสัตว์ ลำห้วย หนองน้ำ และยึดครองที่ดินของชาวบ้านหมู่ที่ 9 หมู่ที่ 14 บ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จำนวนหลายพันไร่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวยืดเยื้อมานานร่วม 20 ปี เปลี่ยนแปลงนายอำเภอมาแล้ว 7 คน แต่ทุกอย่างไม่คืบหน้า นายทุนจึงเหิมเกริมโดยมีคนของรัฐให้ความช่วยเหลือ ยังคงเดินหน้ารุกที่ดินสาธารณะและที่ดินชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง กลุ่มชาวบ้านจึงรวมตัวกันร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่แทบทุกหน่วยเหมือนสงบนิ่ง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้

ล่าสุด วันที่ 22 สิงหาคม 2562 ปรากฏมีชาวบ้านถูกนายทุนแอบฮุบที่โผล่อีกราย คือนายยศ สาเส็ง อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 123 หมู่ 9 บ้านห้วยพระ มาพร้อมกับลูกสาว น.ส.ปานทอง สาเส็ง อายุ 37 ปี หอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของตน ประกอบด้วยใบจอง ระบุรายละเอียด ทะเบียนเล่ม 2 หน้า 148 เลขที่ 240 ออกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2528 ต่อมาปี พ.ศ.2534 ได้ออกเป็น นส.3 ก. ระวางเลขที่ 5944 TTT แผ่นที่ 142 กระทั่งวันที่ 1 มิถุนายน 2560 นายยศได้ขอรังวัดออกเป็นโฉนด ระบุเลขที่ 34786 เล่ม 348 หน้า 86 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตำแหน่งที่ ระวาง 5944TTT 4840 เลขที่ดิน 111 หน้าสำรวจ 5148 ต.ท่าจำปา เนื้อที่ 29 ไร่ 2 งาน 87 ตารางวาง เพื่อขอตรวจสอบตำแหน่งที่ดินจากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาอำเภอท่าอุเทน

น.ส.ปานทองเปิดเผยว่า พ่อของตนป่วยเป็นโรคหูตึงขั้นรุนแรงมาประมาณ 20 ปี เวลาจะพูดต้องตะโกนถึงจะได้ยิน เหตุที่ต้องพาพ่อมาสำนักงานที่ดินท่าอุเทน เพราะต้นเดือนมิถุยายนที่ผ่านมา นายทุนได้มีหนังสือขอสอบเขตรังวัดที่ดินของตัวเอง ในพื้นที่บ้านห้วยพระ หมู่ 9 และ หมู่ 14 จำนวน 16 แปลง ทางสำนักงานที่ดินฯจึงมีหนังสือถึงเจ้าของที่ดินข้างเคียงร่วมออกรังวัดด้วย ในจำนวนนั้นก็มีชื่อของพ่อรวมอยู่ด้วย ปรากฎว่ามีคนของนายทุนเดินถือหลักเขตชั่วคราว เข้าไปปักในที่ดินของพ่อตนด้วย เมื่อมีการทักท้วงก็บอกว่าเข้ามาเก็บเห็ด

ด้วยความสงสัยจึงตรวจเช็คที่ดินของตนทางแอปพลิเคชั่นของกรมที่ดิน ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ได้ตรวจสอบตำแหน่ง และภาพแปลงที่ดิน โดยตนเลือกจังหวัดและระบุเลขที่โฉนดลงไป แอปพลิเคชั่นก็จะแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ เช่น หมายเลขระวาง เลขที่ดิน เลขโฉนดที่ดิน หน้าสำรวจ ตำบล/อำเภอ/จังหวัด เนื้อที่ ฯลฯ ปรากฏว่าเลขที่โฉนดของพ่อค้นหาไม่พบ แต่กลับมีโฉนดเลขที่ 19335 ของนายทุนกลายเป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวแทน ด้วยความร้อนใจจึงพาพ่อมาขอตรวจสอบใบโฉนดที่ถือครองอยู่กับสำนักงานที่ดินนครพนมสาขาท่าอุเทน

นายวัชรพงษ์ อนุศาสน์สิริพร นายช่างรังวัดชำนาญงาน ก็ดำเนินการให้ตามคำร้องขอ ตรวจสอบในสาระบบต่างๆ ล้วนระบุชื่อบริษัทของนายทุนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ขณะในแผนที่มีภาพการเข้ายึดครองที่ดินของนายทุนอย่างชัดเจน เมื่อสอบถามนายวัชรพงษ์กรณีเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ใบโฉนดของใครถือว่าถูกต้องที่สุด ซึ่งนายวัชรพงษ์ตอบต้องดูที่หลักฐาน ทางนายยศก็นำเอกสารที่เตรียมมาให้ดู นายวัชรพงษ์จึงเข้าไปค้นในห้องเก็บแผนที่ พบเพียงหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ ระบุเลขที่ 5944 TTT ชัดเจน แต่ระวางแผนที่กลับอันตธานหายไปหาไม่พบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังหาคำตอบจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านเชื่อต้องมีคนของรัฐคอยช่วยเหลือนายทุน โดยกลางปี 2551 สำนักงานที่ดินฯ ประกาศแจกโฉนดที่ดินแก่ผู้ขอออกโฉนด ปรากฎมีชื่อของนายทุนเป็นผู้ได้มากถึง 51 แปลง และนายทุนได้มอบอำนาจให้ลูกน้อง มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอเรณูนคร จ.นครพนม เป็นผู้ดำเนินการแทน แต่ชาวบ้านจำนวน 148 คน ยื่นหนังสือคัดค้านต่ออำเภอท่าอุเทน  และสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม(ส.ป.ก.ฯ) เพราะนอกจากจะมีการบุกรุกที่ดินของชาวบ้านแล้ว ก็มีคนของรัฐแอบเข้าไปลักลอบรังวัดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และยังออกโฉนดทับที่ดิน ส.ป.ก.อีกด้วย ซึ่งหลังตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูล จึงออกหนังสือคัดค้านการประกาศแจกโฉนดที่ดิน จำนวน 51 แปลงนั้นไว้ก่อน ภายหลังก็งุบงิบออกโฉนดทั้ง 51 แปลง ให้กับนายทุน และปลัดอำเภอท่าอุเทนผู้ที่ออกหนังสือคัดค้านก็โดนเด้งไปอยู่ที่อื่น

นายพันธ์ ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้านห้วยพระ หมู่ 9 ต.ท่าจำปา เผยว่าคนของรัฐทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อเร่งออกโฉนดให้แก่นายทุน เพียงแค่นายทุนสั่งให้ทำอะไรก็ปฏิบัติตาม โดยเห็นได้จากหลักฐานการออกโฉนดเลขที่ 19238 มีชื่อนายทุนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ มีขอบเขตรูปที่ดินครอบคลุมลงไปในลำห้วย และหนองน้ำสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันมานาน แม้กระทั่งถนนทางหลวงชนบท สายบ้านห้วยพระ-บ้านดอนสวรรค์ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม คนของรัฐยังผนวกให้อยู่ในโฉนดดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าขบวนการในการออกโฉนดในครั้งนั้นเป็นไปอย่างเหิมเกริมและเร่งรีบตลอดจนไม่มีการลงพื้นที่จริงเพื่อทำการรังวัดตามขั้นตอนการออกโฉนดอย่างที่ควรจะเป็นจึงทิ้งร่องรอยการกระทำผิดไว้ประจานตนเองและหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องคอยตามแก้ไขอย่างเช่นปัจจุบัน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน