X

โผล่เพิ่มอีก 3 ราย เหยื่อแฮกไลน์ ผงะเจ้าของบัญชีเป็นข้าราชการ กองปราบลุยล่าตัว

นครพนม – จากกรณี น.ส.อรรจจิมา ศรีชนม์ หรือวงแหวน อายุ 53 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าตึกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ และ wond center รพ.นครพนม ได้แจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพที่แฮกเฟซบุ๊กและไลน์หลอกยืมเงินคนรู้จักถึง 38 ราย เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.62 เวลาประมาณ 12.11 น. มีเพื่อนหลายคนทั้งในที่ทำงานและต่างจังหวัด โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า มีการทักไลน์เพื่อไปขอยืมเงินจำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสน โดยมีเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก

เบื้องต้นมีผู้ตกเป็นเหยื่อ ที่ออกมาเผยถึงวิธีการล่อหลอกของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จำนวน 2 ราย คือ น.ส.นภัทร อินทร์ติยะ หรือแหลม พยาบาลวิสัญญี รพ.นครพนม และ น.ส.พิมพ์ใจ ดีวงศ์ หรือเหมย ทำงานบริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. โดยโอนไปยังบัญชีธนาคารรวม 2 บัญชี คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต มี น.ส.นูรี งานแข็ง เป็นเจ้าของบัญชี และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาภูเก็ต ระบุชื่อเจ้าของบัญชี นายดุสิต พ่วงบุญ โดยเฉพาะบัญชีของนายดุสิต วันที่ 28 เม.ย.62 มีการถ่ายเทเงินโอนไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้กว่า 7 ล้านบาท คงเหลือเงินติดบัญชีเพียง 6 บาทเท่านั้น

ล่าสุดวันที่ 1 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ตกเป็นเหยื่อขบวนการดังกล่าวโผล่เพิ่มอีก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. นางอรอนงค์ โพธิ์ตะนัง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 118 หมู่ 9 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม อาชีพเป็นข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าพบ ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อแจ้งความดำเนินกับมิจฉาชีพที่ปลอมไลน์ของญาติหลอกให้โอนเงินมาดำเนินคดี

นางอรอนงค์เผยว่าเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันเดียวกัน มีคนปลอมไลน์เป็น น.ส.ลัดดาวัลย์ โลกะนัง อายุ 58 ปี ถ้านับญาติจะมีศักดิ์เป็นย่า บ้านเลขที่ 162 หมู่ 1 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อขอยืมเงิน 10,000 บาท ซึ่งตนหลงเชื่อเพราะเคยโอนเงินให้กันและกันประจำ  จึงโอนให้ไปจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 4,000 บาท และครั้งที่สองอีก 6,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท โดยโอนเข้าธนาคารเกษตรและสหกรณ์ฯ สาขาภูเก็ต ชื่อบัญชีนายดุสิต พ่วงบุญ หลังตนโอนครั้งที่สองเสร็จเรียบร้อย ก็เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว โดยนำโทรศัพท์เข้าไปเล่นเฟซบุ๊คด้วย ปรากฏว่ามีข้อความจากผู้หวังดีว่า “คุณลัดดาวัลย์ โลกะนัง โดนถูกแฮกไลน์” ตนจึงรีบออกจากห้องน้ำไปดูโทรศัพท์อีกเครื่อง พบข้อความของคนร้ายที่ใช้ไลน์ของ น.ส.ลัดดาวัลย์ ขอให้ตนโอนเพิ่มอีก 20,000 บาท จึงพยายามพูดหลอกล่อให้คนร้ายโอนเงินคืน พอคนร้ายรู้ก็รีบปิดไลน์หนี ตนจึงชวนนายไชยา โพธิ์ตะนัง สามี มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

นอกจากนี้นางอรอนงค์ยังเล่าต่อว่า หลังคนร้ายปิดไลน์หนีตนแล้ว ยังไปทักไลน์หลานอีก 2 คน เพื่อขอยืมเงินในลักษณะเดียวกัน คือ นางมุนา เจ๊ะมะ ทำงานอยู่ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ด้วยหลานสาวเห็นเป็นไลน์ของ น.ส.ลัดดาวัลย์ ผู้มีศักดิ์เป็นย่า ก็ไม่ได้เอะใจจึงโอนไปเป็นเงิน 15,000 บาท  ต่อจากนั้นคนร้ายได้ขอยืมเงินหลานชายชื่อนายสันทัด ทำงานเป็นลูกจ้างกรีดยางอยู่จังหวัดระยอง เสียรู้มิจฉาชีพโอนเงินไปให้ถึง 74,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต เหตุที่เชื่อเพราะว่าเป็นญาติที่เคารพนับถือกัน  ซึ่งหลานทั้งสองได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้แล้ว

นายไชยา โพธิ์ตะนัง สามีของนางอรอนงค์กล่าวต่อว่า ตนก็โดนทักขอยืมเงิน โดยใช้ไลน์ของ น.ส.ลัดดาวัลย์ เข้ามาใช้ตัวการ์ตูนมาทัก ตนเห็นผิดสังเกตเพราะเวลาที่จะคุยกับ น.ส.ลัดดาวัลย์ จะไม่ใช้ตัวการ์ตูนทักทายกัน จึงทักกลับไปว่าคุณเป็นใคร คนร้ายรีบปิดไลน์หนีทันที

จากแหล่งข่าวแจ้งว่าวันที่ 27 เม.ย. นั้น คนร้ายที่อ้างชื่อนายดุสิต พ่วงบุญ ได้ใช้บัตร ATM ไปกดเงินจากตู้ที่จังหวัดตราด ซึ่งมีการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์พบว่า บุคคลที่ชื่อนายดุสิต พ่วงบุญ มีอาชีพรับราชการ เมื่อมีการโทรศัพท์สอบถามเจ้าตัว นายดุสิตแบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่าตนเป็นเจ้าของบัญชีจริง โดยเปิดบัญชีครั้งแรก 300 บาท พร้อมทำบัตร ATM ซึ่งบัตรก็อยู่กับตนตลอดเวลา ส่วนกรณีมีคนใช้บัตร ATM ไปกดเงินที่จังหวัดตราดนั้น นายดุสิตไม่ยอมตอบคำถาม

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ขอรายละเอียดจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินการสืบสวนล่าตัวคนร้ายรายนี้แล้ว

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน