นครพนม – วันที่ 30 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี วันที่ 29 มี.ค. นางพรนภัส โยบุตดา อายุ 47 ปี เป็นแม่ของนายอนันดา บุญเทียม หรือกิว อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 11 บ้านท่าแต้ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และนางสายฝน บุญเทียม อายุ 46 ปี แม่ของนายธนาธร โยบุตดา หรือปุ๊ก อายุ 17 ปี พร้อมเพื่อนเยาวชนอีก 4 คน รวมเป็น 6 คน ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ท่าอุเทน เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ตชด.237 อ.ท่าอุเทน รวม 10 นาย ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ขณะเข้าจับกุม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด นายปุ๊กเล่านาทีที่ถูกรุมสกรัมว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 26 มี.ค. ตนพร้อมพวกรวม 6 คน นัดกันไปตั้งวงพี้กัญชาบริเวณเถียงนา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 กม. หลังจากเสพเสร็จก็นอนเล่นกันในเถียง ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่งกายนอกเครื่องแบบ ใช้รถยนต์เป็นพาหนะวิ่งเข้ามา ลากพวกตนลงจากเถียงแล้วรุมกระทืบจนหนำใจ จากนั้นก็จับใส่กุญแจมือไพล่หลัง นำตัวไปยังกองร้อย ตชด.237 บ้านนาเพียง ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน โดยนายปุ๊กเผยว่า ในจำนวนคนที่รุมกระทืบกว่า 10 คนนั้นมีกลิ่นเหล้าคลุ้ง
เมื่อมาถึงกองร้อย ตชด.237 ชายที่อ้างเป็น ตชด. ได้โทรศัพท์เรียกผู้ปกครองโจ๋ทั้ง 6 คน ให้มาหาที่กองร้อยดังกล่าว มีบางคนรีบมาหาลูกในคืนนั้น ส่วนนางพรนภัสกับนางสายฝน เดินทางไปหาลูกชายในวันรุ่งขึ้น เมื่อเห็นแผลบนใบหน้าลูกก็ถามว่าโดนอะไร ลูกตอบว่าตกเถียงนา ซึ่งมีการเคลียร์ขอไถ่ตัวเยาวชนทั้ง 6 คน มีสองรายที่ยอมจ่ายคนละ 5,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ อีกสี่คนจ่ายคนละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 14,000 บาท โดยนางพรนภัสเผยว่าไปจ่ายเงินกันที่บ้านพักในกองร้อย แต่หลังจากเคลียร์ทุกอย่างลงตัว นำลูกออกจากกองร้อยกลับมาถึงบ้าน ปรากฎว่าลูกชายคือนายอนันดาหรือกิว มีอาการเจ็บปวดตามร่างกาย จึงพูดความจริงกับผู้ปกครองว่าโดนพวกที่มาจับกระทืบ ไม่มีหมัดมีแต่ตีนล้วนๆ จึงรีบนำตัวลูกไปหาแพทย์แล้วมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่รุมทำร้ายลูกชาย
หลังเป็นข่าวมีเจ้าหน้าที่อ้างเป็น ตชด. โทรศัพท์หาผู้ปกครองเยาวชนทั้ง 6 คน หลายสิบครั้ง เพื่อขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่าไม่ยอมความ ซึ่งยอมรับว่าลูกของพวกตนทำผิดจริง แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีสิทธิ์รุมทำร้ายจนบาดเจ็บ ขณะเดียวกันมีข้อความส่งเข้าแมสเสจนางสายฝน ทำนองข่มขู่ให้ไปถอนแจ้งความ พร้อมให้แก้ข่าวว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด มิฉะนั้นเรื่องอาจจะถึงโรงถึงศาล ทำให้ครอบครัวโจ๋ทั้ง 6 คน เริ่มไม่สบายใจไม่กล้าไปไหนมาไหน เพราะเกรงจะถูกกลั่นแกล้งของคนบางกลุ่มที่รุมทำร้ายลูกของตน
ข่าวน่าสนใจ:
- ไฟไหม้บ้านขณะออกไปเลี้ยงวัว หลานไปเรียกกลับมาแทบเป็นลม วอดหมดไม่เหลืออะไรเลย
- อธิบดีโยธาฯ ลงดาบฟัน หจก.ประชาพัฒน์-เฮงนำกิจ “รับเหมาขาใหญ่” ทิ้งงาน 7 ชั่วโคตร เบื้องต้น 6 โครงการฯ หมดสิทธิ์ทำงานกรมโยธาฯ
- นครพนม รวบตัวหนุ่มชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ
- ททท.ชวนเที่ยวทะเลกระบี่ ท้าพิสูจน์ความแข็งแรงกับบันได 419 ขั้น บนจุดชมวิวเกาะห้อง 360 องศา ชมวิวสุดปัง
โดยนางพรนภัสเผยเพิ่มเติมว่า ตอนแรกที่เด็กไม่กล้าพูดความจริง เพราะมีเจ้าหน้าที่กำชับเด็กให้มาเล่าให้ผู้ปกครองว่า บาดแผลที่ใบหน้าและรอยฟกซ้ำตามร่างกายว่าตกเถียงนา จนเด็กทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว จึงยอมรับว่าโดนทำร้ายจากกลุ่มที่อ้างเป็นตำรวจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: