X

ตำรวจเร่งสอบปากคำ คู่กรณีก่อนแจ้งข้อหา ขณะที่หนุ่มขับกระบะเผยนาทีระทึกไม่ได้ตั้งใจชน

นครพนม – ตำรวจเร่งสอบปากคำ คู่กรณีก่อนแจ้งข้อหา ขณะที่หนุ่มขับกระบะเผยนาทีระทึกไม่ได้ตั้งใจชนแต่ผู้บาดเจ็บเสียหลักล้มเอง

คืบหน้ากรณีเกิดเหตุรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน ษธ 5224 สระแก้ว เสียหลักพุ่งชนรั้วบ้านเลขที่ 87 หมู่ 6 บ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมชนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110ซีซี สีดำ ทะเบียน กช 4403 นครพนม  ได้รับความเสียหายพังยับทั้งคัน โดยมีคนขับรถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นเยาวชนอายุประมาณ 16-17 ปี ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่โรงพยาบาลนครพนมแล้วพบว่าเยาวชนสองคนที่ได้รับบาดเจ็บและถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาได้กลับบ้านแล้วหนึ่งคนส่วนอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บขาขวาหักแพทย์กำลังนำตัวเข้าห้องผ่าตัดซึ่งหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วจำนำตัวมาสอบปากคำต่อไป

ด้านนายมลเทียน ราศรี อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 128 หมู่ 8 บ้านเนินสะอาด ต .นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม  พร้อมน้องชายคือนายปอน อายุ 18 ปี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนคือ ร.ต.ท.หญิง มนัสนันท์ บุรีภักดี ร้อยเวรสอบสวน ที่สภ.เมืองนครพนมเพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายมลเทียน เปิดเผยว่าตนกับภรรยาทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพมหานครก่อนเกิดเหตุจะพาลูกชายที่อายุเพียง 5 เดือนเดินทางมาฝากแม่ให้ช่วยเลี้ยงโดยขับรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุมาด้วยกันจากกรุงเทพและเมื่อคืนที่ผ่านมาน้องชายคือนายปอน ได้มาบอกว่าขณะขับจักยานยนต์จะกลับมาบ้านหลังเลิกงานในตัวเมือง ระหว่างทางพบเห็นกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันอยู่บริเวณทางแยกวิทยาลัยเทคนิคประมาณ 10 กว่าคันโดยแต่ละคนจะนั่งซ้อนท้ายกันมาคันละสองถึงสามคน  เมื่อเห็นนายปอนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ตรงเข้ามาใช้มีดสปาต้าและมีดขอบางคนก็ใช้ดาบซามูไร ไล่ฟันทันที นายปอนจึงเร่งเครื่องหลบหนีไปได้และมาเล่าเรื่องให้ตนฟังว่าถูกวัยรุ่นไม่ทราบว่ากลุ่มไหนรุมไล่ใช้มีดฟัน ตนจึงชวนกันออกตามหาเพื่อหาเบาะแสแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งมาถึงจุดกลับรถบริเวณไฟแดงหน้าโรงเรียนบ้านนาทราย ฝั่งขาเข้าเมืองนครพนม พบกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวรวมตัวกันอยู่บริเวณทางแยกเข้าบ้านหัวโพน ประมาณ 10 กว่าคัน ซ้อนท้ายมาคันละ 2-3 คน จอดขวางถนนหลวงสายดังกล่าวบางคันก็จอดอยู่บนเกาะกลางถนน  ตนจึงจอดรถแล้วถามว่าไล่ฟันน้องตนทำไม ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นไม่ตอบ แต่กลับโยนระเบิดขวดใส่รถแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในหมู่บ้านหัวโพนทันที ตนเห็นดังนั้นก็ขับรถตามเข้าไปทันที ขณะที่วัยรุ่นอีกกลุ่มที่อยู่บนเกาะกลางถนนก็ขับรถตามหลังรถยนต์ของตนเข้ามาติด ๆ พร้อมขว้างระเบิดปิงปองใส่รถตนเสียงดังสนั่น และขณะที่ขับรถเข้าไปในหมู่บ้าน มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเกิดเสียหลักล้มคว่ำ ขณะนั้นตนขับรถมาไกล้จะถึงพอดีและเกรงจะเหยียบทับรถคันดังกล่าวจึงหักพวงมาลัยหลบ ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนรั้วเหล็กบ้านข้างทางได้รับความเสียหาย ส่วนวัยรุ่นที่ซ้อนท้ายมากัน 3 คน มีคนหนึ่งบาดเจ็บขาหัก คนหนึ่งอาศัยความมืดวิ่งหลบหนี ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่หัวคิ้วมีเลือดไหลเป้นทางนั่งอยู่ในที่เกิดเหตุ และกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่ขับตามมาก็จอดรถแล้ววิ่งเข้ามาจะทำร้ายตน ขณะเมื่อจวนตัวตนและน้องชายจึงหยิบอาวุธมีดดาบที่กลุ่มวัยรุ่นทำตกไว้ ขึ้นมาถือไว้เพื่อป้องกันตัวขณะนั้นเริ่มมีชาวบ้านวิ่งมาดูที่เกิดเหตุหลายคน เมื่อเห็นดังนั้นกลุ่มวัยรุนจึงแยกย้ายกันหลบหนีไปทิ้งเพื่อที่ได้รับบาดเจ็บไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตตนครพนมนำส่งตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.นครพนม

ล่าสุด พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่าขณะนี้ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่มีส่วนก่อเหตุทั้งหมด โดยขณะนี้คู่กรณีฝ่ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุประมาร 16-17 ปี ในการสอบปากคำจึงต้องมีสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบด้วยซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาบ้าง อย่างไรก็ตามวันนี้ได้เรียกคู่กรณีที่เป็นฝ่ายขับรถยนต์กระบะมาสอบปากคำแล้วคาดว่าคงจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้ และหลังจากนี้ตนจะวางมาตรการกวดขันเอาผิดอย่างจริงจัง กับกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบก่อเหตุอุกอาจในพื้นที่ เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำขึ้นอีก ส่วนการดำเนินคดี จะต้องเอาผิดทั้งสองฝ่ายตามความผิดทุกข้อกล่าวหา ทั้งคนขับรถยนต์และคนขับรถจักรยานยนต์ ตามพยานหลักฐานที่ตรวจพบ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน