ดร.วิทยา พรรคไทยพร้อม นั่งหัวหน้าพรรคต่ออีกสมัย ยืนยันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

  วันที่ 28 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมโรงแรม พัก พิง อิงโขง ถ.นคร-ท่าอุเทน อ.เมือง จ.นครพนม ดร.วิทยา อินาลา หัวหน้าพรรคไทยพร้อม จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1 มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเกือบ 500 คน

   ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไทยพร้อม ได้พิจารณาอนุมัติรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา การพิจารณาอนุมัติงบการเงินในรอบปีที่ผ่านมาที่ผู้สอบบัญชี รับอนุญาตตรวจสอบและรับรองแล้ว การแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับพรรค โดยให้มีคณะกรรมการจาก 11คนให้เหลือ 7 คนที่ประชุมจึงขอความเห็นชอบจากสมาชิกแล้วมีมติให้เหลือ 7 คน ดังนั้น ดร.วิทยา อินาลา หัวหน้าพรรค จึงประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อหัวหน้าพรรคลาออกคณะกรรมการทั้งหมดก็สิ้นสุดลงไปด้วย ที่ประชุมไดัมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยมีคนเสนอชื่อ ดร.วิทยา อินาลา เป็นหัวหน้าพรรคและให้

สมาชิกโหวตเลือกใช้วิธีลงคะแนนลับ ปรากฎว่า ดร.วิทยา อินาลา ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค คะแนนเอกฉันท์ ทำให้ ดร.วิทยา กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีก 1 สมัย ส่วนกรรมการอื่น ๆ ประกอบด้วย

   นายสุรพจน์ เพชรกรรพุม เป็นเลขาธิการพรรค พ.ต.ต.ธวัชชัย อินาลา เป็นเหรัญญิก นายกษิดิ์เดช ทักษเศรณี นายทะเบียน รองศาสตราจารย์ นคร ยิ้มศิริวัฒนะ กรรมการ คนที่ 1 นายพีระพงษ์ มีขุนทอง กรรมการ คนที่ 2 นายวันชัย นาควิจิตร กรรมการ คนที่ 3

    ดร.วิทยา อินาลา กล่าวถึงการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ถือว่าผ่านไปด้วยความเรียบสมาชิกเกือบ 500 คน ครบองค์ประชุม มีเจ้าหน้าที่จาก กกต.นครพนม มาสังเกตุการณ์ด้วย

   ดร.วิทยา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวประเด็นที่มีพรรคการเมืองบางพรรคนำนโยบายสมัยหาเสียงเลือกตัังครั้งที่แล้ว คือโครงการ เครดิตคาร์บอน ดร.วิทยา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรคหาเสียงการเลือกตั้งในปี 2566 ที่พรรคเคยชูนโยบายเรื่องดังกล่าวไว้เป็นนโยบายโลกของ UN ที่มีสมาชิก กว่า 190 ประเทศ เพื่อหวังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะฉะนั้นเรื่องของคาร์บอนเครดิตที่พรรค ชูนโยบายตลอดที่ผ่านมา พรรคต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะเรือนกระจก

   แนวทางของพรรคกับการเลือกตั้งสมัยหน้ายังคงยึดถือนโยบายไม่ซื้อเสียง แต่จะชูความรู้และนโยบายโดยเฉพาะเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ โดยเน้นการศึกษา และเศรษฐกิจ

   โดยยึดถือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

   สำหรับสนามเลือกตั้งท้องถิ่น นายก อบจ. และสมาชิก อบจ.ที่ใกล้จะครบวาระปลายปีนึ้ ทางพรรคให้ความสำคัญ สนามเลือกตั้ง อบต.โดยจะพิจารณาตามพืันทึ่แต่ละตำบล