หนังควายเค็มสูตรเด็ด ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสานโกยเงินสู้โควิดเดือนละแสน

นครพนม – หนังควายเค็มสูตรเด็ด ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสานโกยเงินสู้โควิดเดือนละแสน โกอินเตอร์ส่งถึงเมืองนอก

วันที่ 18 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด  อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการบางอาชีพ ทั้งรายย่อยรายใหญ่ แต่สำหรับอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ต้นตำรับหนังควายเค็มสูตรคุณตาประนอม ชนะเคน อายุ 70 ปี ชาวบ้านน้อยชลประทาน ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งยึดอาชีพทำหนังควายเค็มมานานกว่า 40 ปี ถือว่าสวนกระแสยุคโควิดแพร่ระบาดไปทั่วโลก  เพราะถึงแม้จะเจอสถานการณ์โรคระบาด  แต่ยังสร้างรายได้ ให้ครอบครัว มีเงินหมุนเวียนสะพัดเดือนละกว่าแสนบาท  เนื่องจากเป็นเมนูขึ้นชื่ออันเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มีความเอร็ดอร่อย ปลอดสารพิษ อีกทั้งยังเป็นหนังเค็มเจ้าเดียวในอีสาน ที่มีเส้นใหญ่ นุ่มอร่อย ไม่มีกลิ่น ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นที่ต้องการของตลาด ส่งขายทางตลาดออนไลน์จนผลิตแทบไม่ทัน รวมถึงโกอินเตอร์ส่งขายไปยังต่างประเทศ เช่น อเมริกา แคนาดา สิงคโปร์ ฯลฯ เป็นต้น

โดยนายวัฒนา สมสิ้ว หรือแขก  อายุ 46 ปี ทายาทผู้สืบทอดภูมิปัญญาหนังเค็มสูตรพ่อประนอม เปิดเผยถึงกระบวนการผลิตว่าหนังควายเค็ม หรือมีชื่อเรียกทั่วๆไปว่าหนังเค็ม คุณภาพจะดีหรือไม่ดีนั้น จะวัดกันที่หลังการเผาเนื้อต้องมีความนุ่ม เส้นหนังเค็มจะต้องใหญ่ไม่เล็กเกินไป และที่สำคัญต้องมีความนุ่มภายใน ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว  ดังที่กล่าวมาจะต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญ และขบวนการผลิต

หนังควายเค็มสูตรพ่อประนอม มีความเฉพาะตัวตรงที่เมื่อได้หนังควายสดมา ต้องมีน้ำหนักแผ่นประมาณตัวละ 40 -50 กิโลกรัม ซื้อในราคากิโลกรัมละ 40 -50 บาท   จะต้องเน้นหนังควายที่อายุไม่มากเกินไป ตรงนี้จะดูจากความชำนาญที่เคยทำมานาน โดยรับซื้อหนังควายสดมาจากหลายพื้นที่ทั้งภาคอีสานและภาคเหนือ

เบื้องต้นนำมาล้างทำความสะอาด แร่เอามันที่ติดกับหนังออกให้หมด จากนั้นจะนำไปผึ่งแดดให้แห้งพอประมาณ แล้วนำมาสับเป็นเส้นด้วยมีดพร้า โดยใช้ความชำนาญไม่ใช้เครื่องทุ่นแรง เพื่อให้ได้เส้นหนังมีขนาดพอเหมาะ ก่อนที่จะนำไปแช่น้ำเกลือ เพื่อปรับให้ได้รสชาติละมุนลิ้นประมาณ 1 คืน จากนั้นจะนำมาคลุกกับรำข้าว เป็นรำแก่ปลอดสารพิษไม่มีส่วนผสมอื่น เพราะรำข้าวจะทำหน้าที่แต่งสีแต่งกลิ่นให้หอมตามธรรมชาติ สุดท้ายจะนำไปย่างไฟ เพื่อให้หนังควายเค็มแห้ง ลดระยะเวลาการตากแดด ซึ่งจะเป็นอีกสูตรสำคัญเพื่อไม่ให้หนังควายเค็มชื้น สามารถเก็บไว้นาน พอย่างไฟแห้งได้ตามต้องการ จะนำหนังควายเค็มที่เป็นเส้นยาวไปตัดเป็นเส้นให้สั้นลง ตามขนาดที่ต้องการ เพื่อรอส่งขายตลาด โดยตัดรวมเป็นมัดขนาดความยาวประมาณเส้นละ 20 เซนติเมตร ในจำนวน 1 มัด จะมี  13 เส้น ขายในราคา 100 บาท

โดยหนังควายเค็ม 1 แผ่น ถ้าน้ำหนักประมาณ 40 – 50 กิโลกรัม เมื่อแปรรูปแล้ว จะขายได้ประมาณ 3,000-4,000 บาท ต้องทำส่งขายทุกวัน เพราะมีออเดอร์ไม่อั้น สร้างรายได้เดือนละกว่า 1 แสนบาท  และจะต้องสต็อกหนังควายสดไว้เดือนละไม่ต่ำกว่า 3-5 ตัน/เดือน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า แต่จะไม่นิยมหนังวัว เพราะมีความแตกต่างกันตรงหนังวัวจะมีความบาง ไม่เหมาะการทำหนังเค็ม

นายวัฒนาหรือแขกยังกล่าวต่ออีกว่า  ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบการจำหน่าย ไม่ได้ขายเพียงหนังควายเส้นทั่วไป ยังมีการทำแพ็คเกจ ซีลบรรจุถุงสูญญากาศ เพื่อไม่ให้มีกลิ่น ไม่เกิดความชื้นเวลาจัดส่งขายต่างจังหวัด เพราะมีการขายแบบออนไลน์ด้วย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาหนังควายเค็มสำเร็จรูป โดยจะเผาและทุบพร้อมรับประทานบรรจุแพ็คเกจขาย ส่งทั่วประเทศ

ปัจจุบันโกอินเตอร์ส่งขายไปถึงประเทศ อเมริกา แคนนาดา สิงคโปร์ เมื่อลูกค้าจะรับประทานสามารถต้มน้ำร้อนแช่ ให้เกิดความนุ่ม สามารถรับประทานได้เลย  สำคัญที่สุดในการกินหนังเค็มจะต้องมีความชำนาญในการเผาด้วย สำหรับหนังเค็มสูตรพ่อประนอม จะมีคุณสมบัติพิเศษเส้นใหญ่ ไม่กลัวไฟ ต้องเผาไฟแรงๆ ให้ไหม้เกรียม ก่อนนำมาทุบเบาๆ แล้วขูดเอาเขม่าไฟดำออก แล้วทุบนวดให้เกิดความนุ่ม ก่อนกิน รับรองได้ถึงความนุ่มอร่อยแน่นอน และสามารถนำไปทำได้หลากหลายเมนู ทั้งจี่ไฟทุบกินได้เลย บางคนนำไปปรุงเป็นเมนูสุดฮิตเช่นแกงขี้เหล็ก แกงอ่อม ยำหนังเค็ม ซุปหนังเค็ม รับรองแซบทุกเมนู ยิ่งฤดูหนาวขายดีเป็นพิเศษ  นิยมนำไปจี่เวลาก่อไฟผิง  หากใครสนใจสามารถติดต่อสอบถาม สั่งซื้อได้ทางออนไลน์เพจ หนังเค็มพ่อประนอม หรือแขกหนังเค็มนครพนม โทร.063-023-2246

ด้านคุณตาประนอม ชนะเคน อายุ 70 ปี เจ้าของต้นตำรับหนังความเค็มอันเลื่องชื่อ เปิดเผยว่าหนังควายเค็มหรือหนังเค็ม เป็นอาชีพมาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เดิมเป็นการถนอมอาหารของชาวบ้านแต่ครั้งโบราณ ปู่ย่าตายายจะเอาหนังควายเค็มมาทำเป็นอาหาร สูตรเดิมจะมีการนำไปหมักแช่เกลือ แล้วนำไปหมักรำแก่จนได้ที่ สูตรนี้หนังควายจะมีกลิ่นเหม็นมาก ตนจึงนำมาประยุกต์พัฒนาให้ดีขึ้น และยึดเป็นอาชีพหลักครอบครัว แต่ก็ต้องพัฒนาปรับปรุงมาต่อเนื่อง จนมีชื่อเสียงส่งขายทั่วประเทศ  ที่สำคัญจะต้องคงความเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านไว้ ไม่แต่งเติมสารที่เป็นพิษ หรือเป็นสารตกค้าง การปรุงรสต้องใช้วัสดุธรรมชาติมีแค่เกลือกับรำข้าวเท่านั้น และจะต้องมีความนุ่มไม่แข็ง เส้นหนังเค็มต้องมีขนาดใหญ่ทนไฟ  อย่างไรก็ตามในภาวะโควิดระบาด ตนยังถือว่ายอดขายยังดี มีแต่เพิ่มขึ้น เพราะรักษาคุณภาพการผลิต ส่งขายถึงต่างประเทศ