เพชรบูรณ์-ปชช.สวดยับ! จู่ๆไทม์ไลน์หาย นพ.สสจ.ปัดไม่ได้ปิดบังข้อมูล แต่ขาดบุคลากรจึงต้องงด ส่วนยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 2,000 รายแล้ว
วันที่ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเพชรบูรณ์พากันสวดยับเสียงขรม หลังเพจ สสจ.เพชรบูรณ์จู่ๆงดการเผยแพร่ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อ ซึ่งปกติทางศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.เพชรบูรณ์ โดย สสจ.เพชรบูรณ์ จะเผยแพร่ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน แต่จู่ๆ หลังไทม์ไลน์หายไปจากหน้าเว็ปเพจ 2 วัน โดยมีเพียงแค่ภาพกราฟิกแจ้งรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยสะสมฯลฯ จนทำให้ชาวเพชรบูรณ์พากันตำหนิโดยบางรายกล่าวหาว่าต้องการปิดบังข้อมูล เนื่องจากที่ผ่านมาชาวเพชรบูรณ์ต่างติดตามไทม์ไลน์ดังกล่าว เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการเฝ้าระมัดระวังตนเองและครอบครัว รวมทั้งเฝ้าระวังชุมชน
นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ทำไม่ทันและดูแล้วเราควบคุมสถานการณ์ได้ และขณะนี้ผู้ติดเชื้อมาจากต่างจังหวัดกลับมารักษาที่เพชรบูรณ์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งดูไม่ได้มีผลกับการควบคุมของเรา ขณะเดียวกันสถานการณ์ขณะนี้ก็ค่อนข้างขาดแคลนบุคลากร เพราะกำลังเร่งการคีย์ระบบวัคซีนก็เลยต้องระงับเรื่องไทม์ไลน์ไปก่อน
“เราไม่ได้ปิดบังข้อมูลเพียงแต่ว่าเราควบคุมสถานการณ์ได้หากมีเวลาพอก็จะทำไทม์ไลน์ให้ ช่วงนี้กำลังมุ่งเน้นเรื่งวัคซีนกันอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่หากเคสไหนจะกระทบกับคนหมู่มากและจำเป็นต้องให้ระมัดระวังตัวและคนใกล้ชิด ก็จะลงไทม์ไลน์ให้โดยจะพิจารณาเป็นเคสๆไป”นายแพทย์ชัยวัฒน์กล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- ปูด 8 โครงการกรมโยธาฯ ดูชัดๆ เอื้อขาใหญ่ ชี้สองบริษัทนั่งสัญญาเครือข่ายเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยจะอุ้มต่อหรือพอแค่นี้
- 'นายกฯ' สั่ง เร่งหาสาเหตุ-ประเมินสุขภาพ ปชช.เหตุไฟไหม้โรงงานกากสารเคมี
- ชาวบ้านแก้งค้านสร้างฟาร์มหมู แอบเรียกลูกบ้านหาแนวร่วมทำประชาคม อ้างนายก อบต.คนดัง โร่แจ้งความหลังถูกแอบอ้าง
- ระยอง - ไฟปะทุ 'โรงงานเก็บสารเคมี' เจ้าหน้าที่ฉีดโฟมสกัด (มีคลิป)
รายงานข่าวแจ้งว่า สสจ.เพชรบูรณ์รายงานถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อวันที่ 31 ก.ค.64 โดยระบุว่า ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 119 ราย ผู้ป่วยในพื้นที่วันนี้ 13 ราย, ขอเข้ามารักษาวันนี้ 106 ราย จำนวนขอเข้ามารักษาสะสม 1,365 ราย หายกลับบ้าน 20 ราย หายกลับบ้านสะสม 401 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาล 1,646 ราย เสียชีวิต 8 ราย ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,054 ราย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: