X

เผยนักวิชาการไทย-เทศสนทำวิจัย แหล่งฟอสซิลดึกดำบรรพ์เพชรบูรณ์ ไขปริศนายุคเพอร์เมียน 240-280 ล้านปี หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเกือบสิ้นโลก

เพชรบูรณ์-นักธรณีฯชี้แหล่งฟอสซิลฯซับชมพู อยู่ในยุคเดียวกับแหล่งฟอสซิลภูน้ำหยด เผยนักวิชาการทั้งไทยและเทศสนใจทำวิจัย หวังไขปมปริศนาโลก 240-280 ล้านปียุคเพอร์เมียน หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนเกือบสิ้นโลก ห่วงนักค้าของเก่าแอบฉกไปซื้อขายในตลาดมืด

วันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีการพบแหล่งฟอสซิลดึกดำบรรพ์ที่บ้านซับชมภู  อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เพิ่มเติม โดยลักษณะใกล้เคียงกับแหล่งฯภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี  ซึ่งอยู่ในยุคเพอร์เมียนอายุราว 240 ล้านปี ล่าสุด ดร.สมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศทรัพยากรธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณีวิทยา กล่าวว่า แหล่งฟอสซิลดึกดำบรรพ์ที่พบที่บ้านซับชมภู อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ โดยดูจากภาพฟอสซิลจากสื่อที่นำออกเผยแพร่ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นยุคเพอร์เมียนและเป็นยุคเดียวกันกับแหล่งฟอสซิลฯภูน้ำหยด อ.เชียรบุรี โดยมีอายุราว 240-280 ล้านปี เพียงแต่สภาพพื้นที่และภูมิประเทศมีความแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งสองแหล่งฯเชื่อว่ามีการเชื่อมโยงกันอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกอนุแผ่นผิวโลกเก่า อินโด-ไชน่าและชาน-ไทยที่ยกตัวสูงขึ้นโดยมีทะเลเททิสคั่นกลาง ทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางธรณีวิทยาขึ้น โดยแนวที่พบหลักฐานมีตั้งแต่ถ้ำใหญ่น้ำหนาวเพชรบูรณ์ โดยไล่ลงมาถึงภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรีและยังต่อเนื่องไปถึง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นทะเลเดียวกันมาก่อน

ดร.สมบุญกล่าวยังกล่าวถึงความคืบหน้าแหล่งฟอสซิลฯภูน้ำหยดด้วยว่า ปัจจุบันมีนักวิชาการและนักวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งติดต่อสอบถามข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตนเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ก็มีนักวิจัยในเครือข่ายนักธรณีวิทยาให้ความสนใจเช่นกัน พร้อมขอข้อมูลและกำลังพิจารณาจะทำเรื่องขอทุนวิจัยแหล่งฟอสซิลดึกดำบรรพ์แห่งนี้และใกล้เคียง ฉะนั้นหากมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมและมีการเก็บตัวอย่างไปทำวิจัยในห้องแล็ป จะทำให้เกิดประโยชน์และได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น ที่สำคัญจะนำไปสู่การไขปมปริศนาถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกเมื่อ 240-280 ล้านปี ในยุคเพอร์เมียนที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จนทำให้สัตว์เลื้อยคลานในยุคนั้นสูญพันธุ์ไปเป็นจำนวนมาก

“เวลานี้สิ่งที่น่าห่วงใยอีกเรื่องก็คือ ซากฟอสซิลเหล่านี้ไม่เพียงมีคุณค่าในด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังเป็นสมบัติของชาติหรือของโลกอีกด้วย แม้ปัจจุบันมีกฎหมายให้ความคุ้มครองห้ามทำการค้าซื้อขายกัน แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของบรรดาพวกนักค้านักสะสมและพวกชอบทำเครื่องลางของขลังอีกด้วย จึงทำให้ฟอสซิลเหล่านี้มีมูลค่าและเท่าที่ทราบในตลาดมืดก็มีการประมูลและซื้อขายฟอสซิลเหล่านี้ด้วย ยิ่งปัจจุบันมีทั้งระบบอินเตอร์เน็ตและสื่อโซเชียล ทำให้การซื้อขายแบบข้ามโลกทำได้ไม่ยาก ฉะนั้นจึงฝากให้หน่วยงานในพื้นที่และทางท้องถิ่นโดยเฉพาะในชาวบ้านในชุมชน ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่ออนุรักษ์รักษาฟอสซิลเหล่านี้เอาไว้ให้ได้” ดร.สมบุญกล่าว

ทั้งนี้จากเว็บไซต์ “วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี” ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “ยุคเพอร์เมียน” ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษ : Permian ว่า เป็นยุคสุดท้ายในมหายุคพาลีโอโซอิกอยู่ระหว่าง 299±0.5 ล้านปีมาแล้วถึง 251±0.16 ล้านปีมาแล้ว มีสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอยู่มากมาย พืชตระกูลสน เฟิร์นมีมากในช่วงนี้ สัตว์เลื้อยคลานในช่วงนี้คล้ายคลึงกับไดโนเสาร์ แต่เกิดการสูญพันธ์ช่วงปลายยุค ซึ่งเป็นการสูญพันธ์ครั้งใหญ่ที่สุดที่พบบนโลกสิ่งมีชีวิตบนโลกได้สูญพันธ์ไปถึง 96-97%

ฟอสซิลหอยพบที่แหล่งฯซับชมภู อ.หนองไผ่
ฟอสซิลปะการังพบที่แหล่งภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี
แหล่งฟอสซิลดึกดำบรรพ์ภูน้ำหยด สุดอลังการจนนักวิชาการทั้งไทย-ไทย สนใจทำวิจัย

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน