ราชบุรี เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.65 มีชาวบ้านมาแจ้งกับนายคนึง คงจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ว่าพายุได้พัดต้นโพธิ์ล้มทับวิหารหลวงพ่อสมปารถนาและศาลหลวงพ่อโต ภายในวัดจอมปราสาท พังเสียหาย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแจ้งไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลคลองข่อย เพื่อให้มาร่วมตรวจสอบด้วย ที่บริเวณวิหารหลวงพ่อสมปารถนา พบต้นโพธิ์เก่าแก่อายุกว่า 150 ปี ได้หักโคนลงมาทับวิหารหลวงพ่อสมปารถนาเสาของวิหารพร้อมหลังคาพังถล่มลงมา แต่ที่น่าแปลกใจองค์พระของหลวงพ่อสมปารถนา ไม่เป็นอะไรเลย มีเพียงพระโมกทรัพย์ที่อยู่ฝั่งขวาที่เศียรหัก ใกล้กันที่ศาลหลวงพ่อโต ก็โดนกิ่งต้นโพธิ์หักหล่นลงมาทับศาลพังทั้งหลัง แต่พระพุทธรูปหลายองค์และรูปปั้นหลวงพ่อโต ไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งเป็นเรื่อง น่าแปลก หลังชาวบ้านที่รู้ข่าว ได้เดินทางมามุงดูต่างยกมือไหว้สาธุองค์พระหลวงพ่อสมปารถนาและหลวงพ่อโต ที่ชาวบ้านนับถือกันมาก ที่ไม่แตกหักและเสียหาย
ต่อมาทางชาวบ้านพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.คลองข่อยได้ช่วยกันเอาเลื่อยยนต์มาตัดกิ่งไม้ออก พร้อมทั้งนำกรวยยางมาวางปิดถนนไม่ให้รถผ่านเกรงหลังคาของวิหารจะล้มพับเกิดอันตรายได้ แต่เนื่องจากต้นโพธิ์มีขนาดใหญ่ ต้องใช้รถเครนมายกพยุงลำต้นของต้นโพธิ์ไว้ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ในการทำงาน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงสามารถกู้ต้นโพธิ์ได้ แต่เนื่องจากเป็นเวลามืดค่ำไฟส่องสว่างไม่เพียงพอจึงต้องยุติการทำงานไว้ก่อน ในวันรุ่นขึ้นจะดำเนินการรื้อหลังคาวิหารและศาลหลวงพ่อโตออก เพื่อเตรียมหาเงินมาทำการบูรณะใหม่
จากการสอบถามนายคะนึง คงจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.คลองข่อย ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนเย็นได้มีฝนตกลงมาไม่เยอะ แต่มีลมแรง ชาวบ้านได้มาแจ้งว่ามีต้นโพธิ์ล้มทับวิหาร ทั้ง 2 หลัง จึงประสานไปยัง อบต.ให้มาช่วยกันทางหลวงพ่อก็ซื้อน้ำมันมาช่วยเพื่อเติมเลื่อยยนต์มาช่วยกันตัดกิ่งไม้ออก ภายในวิหารนั้นมีพระหลวงพ่อสมปารถนาอยู่ 1 องค์ และอีกศาลเป็นหลวงพ่อโต และพระพุทธรูปอีก 7-8 องค์ เป็นที่น่าแปลกใจพระพุทธรูปทั้งหมดไม่เป็นอะไรเลยมีเพียงพระโมกทรัพย์องค์เดียวที่โดนเสาล้มทับ ในส่วนวิหารนั้นสร้างมาประมาณ 3 ปี ส่วนศาลหลวงพ่อโตนั้นสร้างมาประมาณ 10 กว่าปี ในส่วนต้นโพธิ์ต้นนี้อายุน่าจะร้อยกว่าปี จากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งช่วงเกิดเหตุนั้นมีลมกระโชก แต่ก็ยังโชดดีที่เวลานั้นไม่มีรถสัญจรผ่านไป มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายได้
