กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย ตลาดแรงงานไต้หวันเปิดแล้ว พร้อมรับแรงงานไทย ภาคการผลิตและก่อสร้างจำนวนมาก
วันที่ 20 มิถุนายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตลาดแรงงานไต้หวัน เป็นอีก 1 ตลาดที่เริ่มเปิดรับแรงงานไทยกลับเข้าไปทำงาน โดยข้อมูลจาก สำนักงานแรงงานไทเปและเกาสง ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64-16 มิ.ย.65 มีนายจ้าง/สถานประกอบการ 2,374 ราย ยื่นเอกสารขอจ้างแรงงานไทย จำนวน 20,195 ราย แบ่งเป็นแรงงานภาคการผลิต 15,941 ราย ภาคก่อสร้าง 4,099 ราย ภาคเกษตร 83 ราย และผู้อนุบาล 67 ราย
หลังจากนี้คาดว่ายังมีความต้องการแรงงานทั้งภาคการผลิตและภาคก่อสร้างจำนวนมาก เนื่องจากไต้หวันมีการสร้างและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ทั้งการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร อาคารท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน รถไฟฟ้าสายสีเขียว และโรงไฟฟ้า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ไต้หวันมีมาตรการให้แรงงานต่างชาติ เมื่อเดินทางไปถึงจะต้องกักตัว 3 วัน และสังเกตอาการอีก 4 วัน รวมวันกักตัวเป็น 7 วัน ตามมาตรการของ ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน (CECC) โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.65) มีแรงงานไทย 39 คน เดินทางไปทำงานเป็นพนักงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กับนายจ้างต่างประเทศ Pan Jit International ซึ่งประกอบกิจการประเภทอุตสาหกรรม การผลิต ซ่อมแซมและติดตั้งเครื่องจักรกลไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีระยะเวลาการทำงาน 3 ปี มีรายได้เดือนละ 25,250 เหรียญไต้หวัน หรือประมาณ 29,886 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น)
โดยแรงงานทั้งหมดได้ผ่านการอบรมคนหางานก่อนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศกับกรมการจัดหางาน และซื้อกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ นอกจากนี้ จะมีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคก่อสร้างในช่วง ก.ค.-ส.ค.65 อีกกว่า 90 คน
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ฝากถึงแรงงานไทยทุกคนที่ประสงค์เดินทางไปทำงานไต้หวันและประเทศอื่น ๆ เลือกเดินทางอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมี 5 วิธี ได้แก่ บริษัทจัดหางานจัดส่ง กรมการจัดหางานจัดส่ง เดินทางด้วยตนเอง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงาน และนายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงาน ซึ่งในกรณีของไต้หวัน มักเป็นการไปทำงานโดยบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง ขอให้คนหางานตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาต ได้ที่ www.doe.go.th/ipd
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้คนหางาน สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพราะหากประสบปัญหาในต่างประเทศ อาทิ เจ็บป่วย ถูกเลิกจ้าง ถูกทอดทิ้งในต่างประเทศ ประสบปัญหาจากภัยสงคราม โรคระบาด หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตในต่างประเทศ หลังตรวจสอบและพบว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์สมาชิกกองทุนที่ยังอยู่ในความคุ้มครองจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ
