กรุงเทพฯ – เพื่อไทยไปต่ออีสาน 4 จังหวัด 7 เวทีแบบจุกๆ ‘ณัฐวุฒิ’ เผย ภาคใต้กระแสดี หลังเปิดเวทีปราศรัย คนใต้อยากเปลี่ยน ย้ำ! แม้ผลโพลมาที่ 1 แต่ยังต้องทำงานเข้มข้นยันเลือกตั้ง
วันที่ 30 เมษายน 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ตลอด 3 วัน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 4 จังหวัด พรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้ ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต, พังงา, สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิดของตนเอง ทั้งในการเดินตลาดสด ตลาดนัด แหล่งชุมชน ได้พบปะพี่น้องประชาชน ทุกคนต่างต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องการนโยบายที่มีศักยภาพของพรรคเพื่อไทย พร้อมรับฟังปัญหาของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ภาคเกษตรกร และชาวประมง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ให้คำยืนยันว่า พรรคมีนโยบายที่สามารถแก้ปัญหาให้พี่น้องได้ และขอขอบคุณพี่น้องชาวภาคใต้ที่ให้กำลังใจ ให้ความอบอุ่น รวมถึงความเชื่อมั่น ซึ่งตนเองมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะปักธงในพื้นที่ภาคใต้ได้ในหลายเขตอย่างแน่นอน
“วันนี้พรรคเพื่อไทย โดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และแกนนำของพรรคทุกองคาพยพ ยังเดินหน้าทำงานเต็มกำลัง โดยเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่ทำงานอย่างเข้มแข็งในพื้นที่ รวมถึงผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่กระจายตัวไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตทำงานเช่นกัน กองอำนวยการเลือกตั้งของพรรค ทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยความมุ่งมั่น ไม่ว่าผลสำรวจจะออกมาว่าเราได้ที่ 1 แต่เราไม่ได้ลดระดับความเข้มข้นในการทำงานในพื้นที่ลงเลย”
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยได้เดินหน้าลงพื้นที่ปราศรัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 29-30 เมษายน 2566 ที่จังหวัดศรีสะเกษ, สุรินทร์, มหาสารคาม และบุรีรัมย์ นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยในแต่ละพื้นที่
ทั้ง 4 เวที ที่ จ.ศรีสะเกษ ใน อ.กันทรลักษณ์, อ.เมือง และ อ.ทุมพรพิสัย รวมถึง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป (29 เม.ย.66) มีพี่น้องประชาชนสนใจเข้าร่วมรับฟัง พร้อมให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามทุกเวที และจากนั้นในวันที่ 30 เม.ย.66 จะเปิดเวทีแรกตั้งแต่เวลา 8:15 น. ที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ต่อเนื่องไปในเวลา 11:00 น. ที่ อ.ละหานทราย และ ปิดท้ายในเวลา 13:30 น. ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รวมอีก 3 เวทีใน 2 จังหวัด นายณัฐวุฒิ กล่าว
