นครศรีธรรมราช : คุณนายดาว สาวกำมะลอ ใช้ชีวิตอยู่แบบหลอกตัวเองไปวันๆ หาเงินจากเหยื่อที่ไม่รู้เท่าทัน ใช้กลวิธีหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ ส่วนใหญ่มักเป็นเหยื่อที่อ่อนแอกว่า ข่มขู่ได้ กลัวอำนาจอิทธิพล ส่งผลให้การใช้ชีวิตของคุณนายดาว สาวกำมะลอ แท้ที่จริงมีแต่ตัว อยู่รอดหลอกเหยื่อมาได้นานนับสิบปี
สำหรับผู้เสียหายอีกรายในคดีคุณนายกำมะลอ ที่ถูก น.ส.อาญาภา หรือ ดาว อิสริยาฐากูร หลอกนำเอาเงินไปได้อย่างง่ายดายด้วยการเข้ามาตีสนิท แล้วหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งเหยื่อรายนี้นับได้ว่าเป็นเหยื่อที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่มบรรดาผู้เสียหายทั้งหลาย โดยนางสุนิภา (ยายเหมียว) เนตรประไพ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/3 ไม่ทราบหมู่ ต.แขวงปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพเป็น‘หมอดูลายเท้า’หาเลี้ยงชีพ ได้ตกเป็นเหยื่อที่ต้องสูญเสียเงินก้อนเดียวที่มีอยู่ในจำนวน 1 หมื่น 4 พันบาท หลัง น.ส.ดาว ได้อ้างถึงความจำเป็นและเดือดร้อนเพื่อทำทีขอยืมเงินก่อนจะหลงเชื่อมอบบัตรกดเงินสดให้ไปกดเงิน แล้วก็ออกจากบ้านหายไปโดยไม่กลับเข้ามาอีกเลย
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงขณะที่ น.ส.ดาว ได้หนีร้อนมาพึ่งเย็น ที่บ้านของคุณยายเหนียว ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของแม่ น.ส.ดาวได้มาอาศัยอยู่กินกับยายเหนียวอยู่ได้ในระยะหนึ่ง โดยมาหลบซ่อนตัวเพื่อหลบหลีกการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากคดีก่อนๆ ซึ่งมาพร้อมกับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กอ 6510 สุราษฎร์ธานี ที่มาสืบทราบในภายหลังว่า เป็นรถเช่าภายในสนามบินสุราษฎร์ธานี ที่ น.ส.ดาวเช่าเอาไว้ใช้งาน
โดยรถคันดังกล่าวนี้จะเป็นรถที่ถูกกล่าวอ้างอยู่เสมอ ๆ ว่า ไว้สำหรับรับ-ส่งรัฐมนตรีที่เดินทางมาในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นรถที่ น.ส.ดาว นำมาใช้งานอยู่นานนับปี ด้วยการจ่ายค่าเช่าบ้างไม่จ่ายบ้าง แต่เจ้าตัวกลับบอกกับยายเหมียวไปว่า รถคันนี้เป็นของพ่อ กระทั่งท้ายที่สุด น.ส.ดาวก็สามารถไหวตัวหนีออกจากบ้านยายเหนียวไปได้ทันก่อนที่ น.ส.ชนิชตา สุวรรณอนุจันทร์ และ น.ส.นฤมล ทองเดิม ผู้เสียหายที่เคยถูกหลอกมาแล้วก่อนหน้านี้ ที่ไม่เคยลดละความพยายามในการแกะรอยติดตามตัว น.ส.ดาว เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวไปให้ได้
ซึ่งการเข้ามาหนีร้อนเพื่อพึ่งเย็นครั้งนี้ของ น.ส.ดาว กลับสร้างปัญหาความเดือดร้อนทิ้งไว้ให้กับหญิงชราที่มีฐานะค่อนข้างลำบากยากจน นำเงินที่ได้สะสมไว้จากการประกอบอาชีพดูหมอลายเท้า ไว้เพื่อเลี้ยงปากท้องตนเอง ไปจนหมด เหลือไว้ให้ดูต่างหน้าเพียงแค่ 20 บาท
ก่อนไปได้บอกกับยายเหนียวว่า ขอฝากรถไว้ก่อน ไม่กี่วันจะกลับมารับคืน และมาพร้อมกับเงินที่ตนเอได้ยืมไป ซึ่งตนเองจะเดินทางไปหาพ่อ ทราบว่าพ่อจะได้รับเงินจากการขายที่ดินจำนวน 3 ล้านบาท โดยทิ้งรถไว้แต่ไม่ทิ้งกุญแจไว้แต่อย่างใด พร้อมทั้งบอกกับยายเหนียวว่าในรถมีปืน ทำให้ยายเหนียวซึ่งเป็นหญิงชราบ้านๆ ไม่กล้าที่จะไปเข้าใกล้ จนกระทั่งมีบุคคลซึ่งเข้ามาแล้วแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวนี้โดยจะขอรับคืน คุณยายเหนียวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ทุ่งสง ตามข้อมูลที่ได้เปิดเผยไปทั้งหมด
:อ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่องย้อนหลังได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
