X

ททท.ชวนเที่ยววัดคูหาภิมุข ไหว้ยักษ์เจ้าเขาและพระนอนองค์ใหญ่อายุกว่า 1,200 ปีที่จังหวัดยะลา

ททท.ชวนเที่ยววัดคูหาภิมุข ไหว้ยักษ์เจ้าเขาและพระนอนองค์ใหญ่อายุกว่า 1,200 ปีที่จังหวัดยะลา

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ภูมิภาคภาคใต้ร่วมกับ ททท.สำนักงานนราธิวาส จัดกิจกรรม Fam Trip นำคณะสื่อมวลชน ร่วมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อทำสื่อประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง โดยนำคณะเยี่ยมชมวัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ อยู่ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา  เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของภาคใต้เช่นเดียวกับพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งแสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย บริเวณวัดร่มรื่นมีธารน้ำไหลผ่านบันไดขึ้นไปยังถ้ำด้านบน

ปากถ้ำมีรูปปั้นยักษ์ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าเขา” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2484 มีลักษณะเป็นประติมากรรมรูปยักษ์ยืนตรงสูงราว 6 เมตร รูปร่างหน้าตาคล้ายเงาะป่าซาไก ผมหยิก หนวดเครารุงรัง ดวงตาโปน มีเขี้ยวงอกออกมาพ้นริมฝีปาก มีงูบองหลา(งูจงอาง) เป็นสายสร้อยคล้องคอ ต้นแขนทั้งสองข้างปั้นปูนเป็นสายรัดต้นแขนประดับด้วยหน้าบุคคลอย่างหน้ากากพรานบุญ ร่างกายท่อนล่างทำเป็นผ้านุ่งเหลืองมีลวดลายคล้ายการนุ่งด้วยหนังเสือ มือทั้งสองกุมกระบองที่มีหัวกะโหลกมนุษย์เป็นด้ามท้าย แนบไว้กลางลำตัวอย่างทะมัดทะแมง ส่วนเท้าเปลือยเปล่าไม่สวมรองเท้า ชาวบ้านเชื่อว่ายักษ์ตนนี้มีหน้าที่เฝ้าหน้าถ้ำคูหาภิมุข มิให้ผู้ใดเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติที่ฝังไว้ภายในถ้ำไปได้ กล่าวกันว่าในอดีตมีขุนโจรผู้มีจิตใจอันชั่วช้าพร้อมด้วยลูกสมุน พยายามเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติเหล่านี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยักษ์ทุบตีด้วยกระบองจนถึงแก่ความตาย  นอกจากนี้ยังเป็นที่เชื่อถือกันว่ายักษ์ตนนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถบันดาลให้เกิดความสงบร่มเย็น หากผู้ใดทำผิดศีลธรรมหรือทำเรื่องร้ายแรงก็สามารถดลบันดาลให้มีอันเป็นไป แต่หากผู้ใดตั้งมั่นในศีลธรรม หากยกมือไหว้หรือบนบานสิ่งใดก็จะได้รับพรสมปรารถนาโชคดีมีความสุขตลอดไป จึงเป็นที่นับถือจนได้รับการขนานนามว่า “พ่อท่านเจ้าเขา” มาตราบจนปัจจุบัน

เดินขึ้นไปด้านบนภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ ดัดแปลงเป็นศาสนสถาน มีปล่องที่เพดานถ้ำยามแสงแดดส่องลงมาดูสวยงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่สันนิษฐานว่าสร้างมาแต่ปี พ.ศ. 1300 เป็นพระพุทธไสยาสน์สมัยศรีวิชัย มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้วเชื่อกันว่าเดิมเป็นปางนารายณ์บรรทมสินธุ์เพราะมีภาพนาคแผ่พังพานปกพระเศียร ต่อมาจึงได้ดัดแปลงเป็นพระพุทธไสยาสน์แบบหินยาน  วัดคูหาภิมุข อได้ว่าที่นี่เป็นวัดที่สำคัญของเมืองยะลา รวมถึงมีส่วนของ พิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย ที่เอาไว้เก็บพวกวัตถุโบราณที่ได้มาจากภายในวัดด้วย ไม่ว่าจะเป็น ภูเขากำปั่น พระพิมพ์ดินดิบ สถูปเม็ดพระศก อิฐฐานพระพุทธรูปจอมพลป. พิบูลสงคราม ซึ่งเมื่อก่อนนั้นวัดถ้ำแห่งนี้จะมีชื่อว่า วัดหน้าถ้ำ แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดคูหาภิมุข  ใครที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดยะลา ต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่วัดคูหาภิมุข ได้ไหว้พระชมความงดงามของ ถ้ำ พระพุทธรูป และ โบราณวัตถุ ซึ่งน่าจะเป็นเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่ทั้งสวย และมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ได้ขนาดนี้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

อโนทัย งานดี

อโนทัย งานดี

นักข่าวตัวเล็กๆในเมืองแห่งความสุข