ผู้ว่าฯ ขอนแก่น บินสำรวจน้ำ หลังเขื่อนอุบลรัตน์เหลือน้ำใช้งานเพียง 1% กว่า ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ ยื้อเวลาให้ได้ 8 เดือนจนถึงฤดูฝนปีหน้า
ช่วงบ่ายวันนี้ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจแหล่งน้ำในจังหวัดขอนแก่น หลังจากสิ้นฤดูฝน โดยเฉพาะที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งมีระดับน้ำค่อนข้างต่ำ จนปรากฎให้เห็นเกาะกลางอ่างจำนวนมาก และพื้นที่ริมฝั่งโดยรอบก็ลึกลงไปจนสามารถนำสัตว์เลี้ยงลงไปเลี้ยงได้ ซึ่งจังหวัดในภาคอีสานทางด้านทิศตะวันตกต่างได้รับผลกระทบจากภัยแล้งค่อนข้างรุนแรง ทั้ง จ.ขอนแก่น จ.เลย จ.ชัยภูมิ และจ.หนองบัวลำภู
ผวจ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า จากการบินสำรวจพบว่าทางตอนเหนือบริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ และทางตะวันตกของจังหวัด บริเวณลำน้ำเชิญซึ่งรับน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ ขณะนี้สภาพอากาศเริ่มแห้ง จากที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา น้ำมีอัตราการระเหยค่อนข้างสูง ทางจังหวัดก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด พบว่า อ่างเก็บน้ำทั้ง 14 แห่งใน 26 อำเภอ มีปริมาณภาพรวมความจุ 105 ล้าน ลบ.ม. แต่มีปริมาณน้ำเพียง 74 ล้าน คิดเป็นประมาณร้อยละ 70 ของความจุอ่าง แต่อัตราการระเหยค่อนข้างเร็ว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ระดับน้ำลดไปประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม.
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ลูกค้าโรงจำนำ แห่นำตั๋วฯเพิ่มวงเงิน หลังราคาทองคำพุ่งบาทละกว่า 4 หมื่น นครตรังจัดเงินสำรอง 150 ล้านบาท ให้บริการช่วงเปิดเทอม
- ผู้ว่าฯ นำพุทธศาสนิกชนชาวสกลนคร ทำบุญตักบาตรสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- ข่าวดี Microsoft ปักหมุดลงทุน Data and AI Center ยกระดับไทยสู่ฮับ 'เศรษฐกิจดิจิทัล'
เช่นเดียวกับที่เขื่อนอุบลรัตน์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 614 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 25 ของความจุอ่างในจำนวนนี้เป็นปริมาณน้ำใช้งานเพียง 33 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 1.76 ซึ่งถือว่าต่ำมาก พบว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีน้ำไหลเข้าอ่างเลย ขณะที่ทางเขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำวันละ 300,000 ลบ.ม. เพื่อการบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ในลำน้ำพอง
ในปี 2558 ถือว่าเป็นปีที่เขื่อนอุบลัรตน์แห้งแล้งมากที่สุด ปีนี้ถือว่าแล้งเป็นอันดับ 2 เราจึงอยู่ใน ช่วงเฝ้าระวังเพราะจากนี้ไปจะไม่มีน้ำฝนมาเติมน้ำให้เขื่อนอีกแล้ว จึงขอฝากชาวขอนแก่นและชาวอีสาน โดยเฉพาะปีนี้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับการร้องขอฝนจาก 12 จังหวัดในภาคอีสาน แต่ความชื้นไม่เหมาะสมแก่การทำฝนหลวง
ขณะนี้ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกเจาะบ่อบาดาล เน้นจุดที่ใกล้แหล่งผลิตน้ำประปาหมู่บ้านหรือแหล่งเสริมประปาภูมิภาค ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างแท้จริงให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะเราจะต้องสู้ภาวะเช่นนี้ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.ปีหน้า โดยปกติถือว่าวันที่ 1 มิ.ย. จะเข้าสู่ฤดูฝนใหม่ หรืออีก 8 เดือนข้างหน้า
ด้านนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และ เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ ทั้ง 2 เขื่อนมีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยมาก ส่วนเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีน้ำประมาณ 1,656 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 83 อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก สำหรับอ่างฯ ขนาดกลาง 69 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 331 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุรวม มีความจุมากกว่า 100% จำนวน 5 แห่ง
อย่างไรก็ดี สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้วางมาตรการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง 62/63 ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกับทุกภาคส่วนให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยจัดลำดับความ สำคัญให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศ การสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้า การเกษตรและอุตสาหกรรม ตามลำดับ โดยการบริหารจัดการน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนจุฬาภรณ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำน้อยมากให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ ไปจนถึงสิ้นสุดฤดูแล้ง 62/63 เท่านั้น ส่วนเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับจัดสรรให้กับทุกกิจกรรม ตั้งแต่จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และ อุบลราชธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: