X

รวบผู้ต้องหาบึ้มภูทับเบิก “พล.ต.ศรีวราห์”ลงพื้นที่สอบ อดีตผญบ้านให้การปฎิเสธ

เพชรบูรณ์-“พล.ต.ศรีวราห์”ลงพื้นที่สภ.หล่มเก่า สอบปากคำผู้ต้องหาบึ้มภูทับเบิก ด้านเจ้าตัวให้การปฎิเสธ ตร.ค้านประกันตัว เชื่อพยานหลักฐานอัยการคงสั่งฟ้อง

พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ สภ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 เพื่อติดตามคดีพร้อมสอบปากคำ นายมา วงศ์ทับเบิก อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหล่มสัก คดีวางระเบิดที่บริเวณสามแยกปากทางเข้าภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที 10 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสภ.หล่มเก่า ตั้งข้อกล่าวหานายมาได้กระทำความผิดฐานฆ่าผูอื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหตือทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้เสียทรัพย์ โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมนายตำรวจระดับภาคและจังหวัดและทหารฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังสอบปากคำด้วย

ข่าวแจ้งว่า – นายมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเข้าห้องสอบสวน เพื่อให้พล.ต.ต.ศรีวราห์สอบปากคำ โดยมีทนายความร่วมรับฟังด้วย ขณะเดียวกันได้ห้ามสื่อมวลชนเข้าไป โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ใช้เวลาในกานสอบปากคำนายมาราว 20 นาทีจึงเสร็จสิ้น โดยในชั้นต้นผู้ต้องหาให้ปฎิเสธ ในขณะที่ทางตำรวจได้ปฎิเสธการให้การประกันตัวต่อเช่นกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายมาออกจากห้องสอบสวน ก่อนที่จะเปิดแถลงสื่อมวลชน

ทั้งนี้สาเหตุที่นายมาถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมในครั้งนี้ เพราะทางทีมสืบสวนสืบทราบว่านายมาผู้ต้องหาจะเดินทางมาที่ศาลจังหวัดหล่มสัก กรณีถูกจับกุมตัวคดีป่าไม้ก่อนหน้านี้ ทางทีมชุมสืบสวนจึงวางแผนจังกุมได้บริเวณข้างศาลจังหวัดหล่มสัก และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า

ต่อมาพล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงยืนยันว่า มีพยานหลักฐานเอกสารและวัตถุบุคคล พอที่จะขอความเห็นชอบซึ่งทางศาลก็อนุมัติมาตามนั้น และทางตำรวจคงคัดค้านการประกันตัว นอกจากนี่ได้สั่งการไปแล้วให้ไปฝากขัง เพราะผู้ต้องหามีประวัติเดิมถูกจับบุกรุกป่าอยู่แล้ว และก็เป็นบุคคลภายใต้คำสั่งที่ 35/59 ครอบครองพื้นที่ภูทับเบิกอยู้ต้องรื้อออกไปตามคำสั่ง คสช.แต่อยู่ระหว่างอุทธรณ์

เมื่อถามว่ามั่นใจประจักษ์พยานแค่ไหน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ก็ตามขบวนการยุติธรรมศาลได้อนุมัติหมายจับ ก็เชื่อว่าพนักงานอัยการคงฟ้องให้ เมื่อถามว่ามีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้แค่เพียงคนเดียวแค่นี้ ต่อข้อถามถึงมูลเหตุจูงใจเรื่องนี้ รอง ผบ.ตร กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นเรื่องรุกป่า การฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 35/59 และมีการสูญเสีย เพราะถูกรื้อถอนอาคารบางส่วนออกไป โดยคำสั่งที่ 35/59 บอกให้รื้อออกไปก็ต้องรื้อ แต่ในขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างอุทธรณ์

เมื่อถามว่าสมมุติฐานที่ว่าโกรธแค้นเจ้าหน้าที่จึงลงมือก่อเหตุ พล.ต.อ.ศรีวราห์ตอบว่า สมมุติฐานเชื่อว่าอย่างนั้นและที่เรารายงานศาลไปก็เชื่อว่าอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าน่าจะมูลเหตุรุนแรงพอจะให้ก่อเหตุแบบนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ก็ศาลอนุมัติหมายนะครับ และในทางสอบสวนก็มีมูล มีพยานวัตถุ มีร่องรอย ทำให้เชื่อได้ว่า

เมื่อถูกถามถึงวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ รองผบ.ตร.กล่าวว่า ก็มีพอสมควรแต่เป็นเรื่องในสำนวน หลังจากนั้นพล.ต.อ.ศรวราห์หันไปถาม ผกพ.สภ.หล่มเก่าที่นั่งอยู่ว่า “จริงไหม ผกก.” ซึ่งผกก.สภ.หล่มเก่าตอบว่า “จริงครับ” จากนั้นยังตอบข้อถามที่ว่านายมาเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่เพิมเติมด้วยว่า “นายมาเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและเป็นอดีต ผกค.”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตระเบิดหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า มีครับก็ดูในข้อหาสิหากไม่มีศาลคงไม่อนุมัติหมายจับให้ได้ และเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นอดีตผกค.ก็คงต้องมีความรู้ในเรื่องระเบิด อย่างไรก็มั่นใจในพยานหลักฐาน และที่มั่นใจเพราะศาลท่านอนุมัติหมาย ในเรื่องนี้ทางแม่ทัพภาคที่ 3 ก็ส่งชุด EOD มาดู และทางตำรวจก็ส่งชุด EOD มาดูด้วย ส่วนการรวบรวมหลักฐานทางด้านนี้ทั้ง 2 ชั้นน่าเชื่อว่าจะถูกต้อง

เมื่อถามว่าการรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างใช้เวลานาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ตอบว่าทก็ต้องนานเพราะลากสายไปตั้งไกล พื้นที่เป็นผาไม่ใช่พื้นที่ราบ ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ได้จากการตรวจสอบวัตถุระเบิดในที่เกิดเหตุ เปรียบเทียบกับพยานวัตถุที่ต่อเนื่องจากที่เกิดเหตุซึ่งโยงใยไปถึงผู้ต้องหา

เมื่อสอบถามว่า ได้สอบถามผู้ต้องหาหรือไม่ทำไมถึงต้องหลบหนี พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ไม่ได้ถาม เพียงแต่ถามว่ารับเป็นผู้ต้องหาตามหมายหรือไม่เขาก็รับ และเมื่อถามว่าเคยถูกจับไหมก็บอกว่าไม่เคย จึงถามว่าจะให้การอย่างไรก็เขาก็บอกว่า ขอปฎิเสธตามที่ทนายให้คำแนะนำ ส่วนการทำแผนเมื่อผู้ต้องหาปฎิเสธก็คงไม่มีการทำแผน

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา กล่าวว่า ขบวนการต่อไปก็ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ในส่วนของกรมป่าไม้ทำดีที่ดีก็คือการสนับสนุนข้อมูล

ข่าวโดย สนม บุญจันทึก

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนม บุญจันทึก

สนม บุญจันทึก

ทีมข่าว 77ข่าวเด็ด จังหวัดเพชรบูรณ์