X

แห่กลับบ้าน 304 กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียวติดหนึบ 7 วันอันตรายวันแรก ลุงวัย 70 ดับ

ปราจีนบุรี – ขึ้นอีสานถนนสาย 304 ติดหนึบ ตั้งแต่ทับลานถึงผางาม 10 กม. ส่วนการรณรงค์ 7 วันอันตรายวันแรก ลุงวัย 70 ขับจักรยานยนต์กลับบ้านถูกรถบรรทุกชนดับ ส่วนขนส่งเปิดศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพการจราจรถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย ขาขึ้นโคราชการจราจรติดขัดตั้งแต่เวลา 22.00 น.โดยเริ่มติดขัดตั้งแต่ปั้มน้ำมัน ปตท.หน้า เวโรน่าทับลานไปจนถึงจุดสกัดบ้านผางาม ระยะทางกว่า 10 กม. เนื่องจากถนนบางช่วงเป็นคอขวด และยังอยู่ระหว่างก่อสร้างที่ยังไม่สมบูรณ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง แขวงการทางได้ความร่วมมือให้รถบรรทุกขนาดใหญ่จอดริมทางตามจุดที่กำหนดไว้ก่อน เพื่อความสะดวกในการเดินรถเล็ก แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่งเท่านั้น โดยปริมาณรถในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่วานนี้รถได้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ออกเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร ฯลฯ คาดว่าวันที่ 28 ธ.ค.นี้ น่าจะมีการเดินทางกลับเพิ่มมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.53 น. ร.ต.อ.ปัณวิทย์ บุญชุม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากกู้ภัยสว่างบำเพ็ญจุดบ้านสร้างว่า มีเหตุรถชนกันบริเวณ สะพานวัดพลอย ม.9 ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกฮีโน่ สีเหลือง ทะเบียน 82-9259 ฉะเชิงเทรา ห่างไปอีกเล็กน้อย พบรถจักรยานยนต์ honda wave 100 สีแดงดำทะเบียน กนล 928 ฉะเชิงเทรา ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บชายหนึ่งรายอาการสาหัส ขาข้างซ้ายผิดรูปและมีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้า ไม่ได้สติ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบำเพ็ญฯ บ้านสร้าง จึงประสานรถกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านสร้างสนับสนุนเนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อต่อมาว่า นายจีบ สนนำภา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.8 ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจากการสอบถามญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ได้รับบาดเจ็บได้ขับรถมาเที่ยวหาลูกชายบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุแล้วผู้ได้รับบาดเจ็บกำลังจะเดินทางกลับบ้าน พอออกมาจากบ้านลูกชายได้เล็กน้อย ก็ได้ประสบอุบัติเหตุบริเวณตรงสี่แยกทางเข้าวัดคลองเฆ่ อาการสาหัส

กระทั่งต่อมา ทางแพทย์โรงพยาบาลอำเภอบ้านสร้างได้แจ้งกับทางญาติว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ซึ่ง ร.ต.อ.ปัณวิทย์ บุญชุม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จะได้เชิญ คนขับรถบรรทุกและผู้ที่เห็นเหตุการณ์มาสอบถามหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุนี้ต่อไป

ส่วนที่ บขส.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายสัญชัย ขจรเวหาสน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานเปิดศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะและรับเรื่องร้องเรียน หรือสายด่วน 1584 สืบเนื่องจากกรมการขนส่งทางบก มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2562 โดยจัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย” การตั้งจุดตรวจสอบรถและพนักงานขับรถบนถนนสายหลักและถนนสายรอง การออกตรวจจับความเร็วของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก การควบคุมตรวจสอบและติดตามรถด้วยระบบ GPS การตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถอย่างเข้มข้น ร่วมกับนักศึกษาอาชีวะ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถโดยสารสาธารณะ โดยตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจการตรวจหาสารเสพติด หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด เพื่อเป็นการกำกับ ดูแลควบคุม และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี ได้จัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภครถสาธารณะ และรับเรื่องร้องเรียน หรือสายด่วน 1584 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอกบินทร์บุรี เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง เพื่อรับเรื่องร้องเรียนให้คำแนะนำและป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะตลอดจนการช่วยเหลือผู้โดยสารให้เดินทางถึงจุดหมายปลายทา งอย่างปลอดภัยตลอด 24 ชม. โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงาน ปปส.ภาค.2 จังหวัดชลบุรี และสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดปราจีนบุรี

—————————–

ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"