“กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่สระแก้วช่วยเหยื่อวัยรุ่น 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ พาเหยื่ออีก 5 ราย แจ้งความ จ.สระแก้ว 

สระแก้ว – “กัน จอมพลัง” เดินทางลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อช่วยเหลือเหยื่อกลุ่มวัยรุ่น 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ โดยมีผู้เสียหายที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความอีก 3 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.อรัญประเทศ โดยพนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 3 รายทันที ล่าสุด มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมทั้งหมด 5 ราย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยเดินทางไปที่ สภ.อรัญประเทศ หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายจากกลุ่มวัยรุ่น 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ แต่ไม่กล้าเดินทางเข้าแจ้งความเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากแก๊งวัยรุ่นเหล่านี้มีเครือข่ายจำนวนมากอีกทั้งมีพ่อเป็นตำรวจ สามารถเคลียร์ปัญหาได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะกรณีเข้าไปก่อเหตุเผาศาลตายาย และฟันคนจนเสียชีวิตแต่ไม่ถูกดำเนินคดี จึงต้องการให้ “กัน จอมพลัง” ช่วยเหลือ ซึ่งระหว่างลงพื้นที่มีคนมาคอยต้อนรับและขอถ่ายภาพจำนวนมาก รวมทั้งเข้าพบกับผู้เสียหาย 3 ราย โดยได้นำผู้เสียหายเข้าพบกับ พ.ต.อ.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ และนายตำรวจระดับสูง ร่วมรับฟังการร้องเรียนและเข้าแจ้งความเพิ่มครั้งนี้ ซึ่งทั้งหมด บอกว่า เป็นเหยื่อแก๊งเยาวชน 5 ราย ที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.บัวผัน ตันสุ หญิงสติไม่ดี อายุ 47 ปี ก่อนนำร่างไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนศรีอรัญโญทัย กระทั่งกลายเป็นข่าวใหญ่ กรณีลุงเปี๊ยก สามี ตกเป็นแพะในคดี จนกระทั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ต้องเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงกรณีดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหยื่อของกลุ่มวัยรุ่น 5 โจ๊แก๊งลูกตำรวจ รายแรกเป็น LGBTQ หรือสาวประเภทสอง อายุ 36 ปี และเป็นเหยื่อที่มีการนำคลิปไปเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ ซึ่งถูก 1 ใน 5 วัยรุ่นโจ๋ แก๊งลูกตำรวจ ตบที่หัวจนหน้าคว่ำ และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ,ส่วนเหยื่อผู้เสียหายรายที่ 2 และ 3 เป็นเยาวชนหญิง คนแรกอายุ 12 ปี ส่วนคนที่ 2 อายุ 16 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่ง “กัน จอมพลัง” เปิดเผยว่า  แก๊งนี้ไม่ได้มีแค่ 5 คน แต่จากข้อมูลมีประมาณ 20 คน โดยมีเด็กชายที่เป็นลูกตำรวจ มีปืนพกติดตัว และเป็นหัวหน้าแก๊ง โดยมีรุ่นพี่ชอบออกตัวแทนเพื่อน หากมีใครทำอะไรกับสมาชิกในแก๊ง จะถูกตามก่อกวนหาเรื่องในลักษณะออกหน้าแทนเรื่อยมา ทำให้ไม่มีใครกล้าไปแจ้งความ นอกจากนั้น เจ้หน้าที่ต้องเร่งตรวจสอบว่า ปืนที่เด็กชายพกไปนั้นเป็นปืนของพ่อที่เป็นตำรวจหรือไม่

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์กรณี ป้าบัวผัน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนว่า เด็กพวกนี้เริ่มจากวัยรุ่นไม่กี่คน ไปแหย่ป้าบัวผัน เต้นล้อเลียนป้า ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้น ได้กลับออกมาจากจุดเกิดเหตุ แล้วทำพาวเวอร์แบงก์ของตัวเองหาย ซึ่งคาดว่าจะตกหล่นตอนเต้นล้อเลียนก่อกวนป้าบัวผัน จึงพยายามที่จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปติดตามเพื่อวนหาป้าบัวผัน เพราะเข้าใจผิดว่า ป้าบัวผันเก็บพาวเวอร์แบงก์ไป จนเกิดอาการโมโหและโกรธ กระทั่งก่อเหตุรุนแรงดักล่าว

นายกัณฐัศว์ฯ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า  เนื่องจากตนเองมีแชทที่เด็กกลุ่มนี้ทั้ง 5 คน พูดคุยกัน ซึ่งแชทนี้ตำรวจมีหลักฐาน แต่ไม่ได้นำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ถือว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับสังคมไทย และอยากให้คนที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งนี้ ช่วยกันออกมาให้ข้อมูล ไม่ต้องกลัว ใครทำชั่ว ทำเลว ต้องได้รับผลกรรม นอกจากนี้ ฝ่ายปกครองควรเอาจริงจัง ช่วยกันรื้อให้เกลี้ยง เพราะพฤติการณ์ของเด็กกลุ่มนี้ เมื่อกระทำความผิดไม่เคยรู้สึกสลด มีการชวนเพื่อนในไลน์ไปก่อเหตุกันอีก แถมบางครั้งที่ ไปก่อกวนได้ ก็มีการถ่ายคลิป เพื่ออยากแสดงความยิ่งใหญ่กัน ซึ่งกรณีของการฆาตกรรมป้าบัวผันฯ นั้น มีคำถามเกิดขึ้นกับสังคมหลายอย่างคือ รถจักรยานยนต์ที่เด็กแก๊งนี้ใช้ขับมารวมตัวมั่วสุมและนำไปใช้ในการก่อเหตุ ได้มาอย่างไรจำเป็นต้องตอบสังคมให้ได้

ทางด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด จะนำผู้เสียหายทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสอบสวนปากคำ ว่าเหตุเกิดที่จุดใด อยู่ในเขตความผิดชอบหรือไม่ และผู้ก่อเหตุคือใคร หากพบว่า  อยู่ในเขตความรับผิดชอบของ สภ.อรัญประเทศ จะส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย ก่อนจะนัดสอบปากคำเพิ่มเติม ที่สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป หากเป็นเขตพื้นที่อื่น ก็จะแนะนำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ สภ.ท้องที่นั้น ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ขณะนี้ยังไม่พบว่า ทางผู้เสียหายเคยเข้าแจ้งความ ซึ่งตนยืนยันว่า จะเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหากลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จะให้เจ้าหน้าที่กวดขับเพื่อให้กลับเข้าที่พักไม่เกิน 22.00 น.เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เร่ร่อนไปมา จนอาจจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่ “กัน จอมพลัง” เน้นย้ำให้มีการตรวจสอบอาวุธปืนที่กลุ่มเยาวชนพกพา และใช้พกติดตัว เป็นปืนของพ่อที่เป็นตำรวจเพื่อมาข่มขู่ผู้เสียหายหรือไม่ ทาง ผกก.สภ.อรัญประเทศ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบ รวมทั้งพฤติกรรมที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเผาที่พักอาศัย (ศาลตายาย) และก่อความวุ่นวายต่าง ๆ นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานแล้ว และจากการตรวจสอบ พบว่า บางเหตุการณ์อยู่นอกเขตความรับผิดขอบของ สภ.อรัญประเทศ พร้อมย้ำว่า หากมีผู้เสียหายที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ ขอให้มาแจ้งความ ซึ่งตนเองยืนยันว่า จะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาให้ถึงที่สุด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายจากลุ่มวัยรุ่น 5 โจ๊ลูกตำรวจ หรือที่รวมกันเป็นแก๊งว่า “แก๊งนอนน้อยสตางค์ไม่จ่าย” เพิ่มขึ้นเป็น 5 รายแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติมและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยผู้เสียหาย 5 ราย แบ่งเป็น ผู้เสียหาย 3 ราย อายุเกิน 18 ปี สามารถสอบสวน แจ้งความแล้วดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายได้เลย ส่วนอีก 2 ราย เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ต้องประสานทีมสหวิชาชีพและอัยการ เพื่อนัดสอบสวนอีกครั้ง

—————————
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ,สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว