X

รอง ผบช.ภาค2 แถลงจับกุมพันเอกกัมพูชาคลั่งปิดเมือง ระบุเครียดจัด ตั้ง 6 ข้อหาหนัก

สระแก้ว – รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค2 ลงพื้นที่แถลงข่าว จับกุมพันเอก ซก บันพอ นายทหารจากประเทศกัมพูชา ก่อเหตุขับรถแหกด่านเข้ามาในประเทศไทยทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จ.สระแก้ว และแหกด่านความมั่นคง จนกระทั่งมาถูกปิดล้อมที่ อ.วัฒนานคร จนต้องปิดเมืองนานกว่า 17 ชม.ระบุเครียดจัด ถูกตั้งข้อหาหนัก 6 ข้อหา

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 2 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการจับกุมนายทหารยศพันเอก ประเทศกัมพูชา เข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ก่อเหตุแหกด่านคลุ้มคลั่่ง จนต้องมีการปิดล้อมจับกุมนานกว่า 17 ชม. เจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการและควบคุมสั่งการของ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เป็น ผบ.เหตุการณ์ กรณี ทหารกัมพูชา ยศพันเอก ชื่อ ซก บันพอ (SOK BANPHOL) อายุ 33 ปี ได้ขับรถยนต์จี๊ป ทะเบียน กัมพูชา ฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จว.สระแก้ว เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง และได้ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจ โดยมีอาวุธปืน ซึ่งต่อมาวันนี้ 6 พ.ย.65 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัว พันเอก ซก บันพอ อายุ 33 ปี ได้พร้อมด้วย อาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซีแซด รุ่น พี-07 หมายเลขประจำปืน D105961 พร้อมด้วยกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 17 นัด รถยนต์ ยี่ห้อ จี๊ป สีดำ รุ่น แรงเรอร์ทะเบียน PICH.NIK ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วัฒนานคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภาค 2 แถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ย.65 เวลา 16.55 น.ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ปฏิบัติหน้าที่ ประจำอยู่ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้มีรถยนต์สัญชาติกัมพูชา ยี่ห้อ จิ้ป รุ่นแรงเรอร์ สีดำ ทราบทะเบียนภายหลัง PICH.NIK ขับผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยความเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ได้เรียกให้หยุดรถ เพื่อขอตรวจ แต่รถยนต์คันดังกล่าว กลับเร่งเครื่องขับรถหลบหนีเข้ามาอย่างเร็ว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงได้ทำการขับรถติดตามมา พร้อมประสานแจ้งเหตุ มาสถานีตำรวจข้างเคียง เพื่อทำการสกัดจับรถยนต์คันดังกล่าว แต่ผู้ขับขี่ได้ขับรถวนไปมาในเขตเมืองสระแก้ว คลองหาด ระหว่างขับรถหนี ผู้ขับขี่ ได้ขับรถเฉี่ยวชนรถยนต์สายตรวจของ สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับความเสียหาย และต่อมา ได้ขับรถหลบหนี มุ่งหน้ามาเขตพื้นที่ สภ.วัฒนานคร ขณะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดไว้แล้ว โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหาด , สภ.เมืองสระแก้ว ขับรถติดตามมาอย่างกระชั้นชิด

ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาถึงจุดตรวจ จุดสกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร ได้ใช้เครื่องมือในการหยุดรถ หรือ สติ๊ก ทำการหยุดรถยนต์คันดังกล่าว โดยสามารถหยุดรถยนต์ จี๊ป ดังกล่าว ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว แต่ พันเอก ซก บันพอ ผู้ขับขี่ ยังไม่ยอมลงจากรถยนต์คันกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการปิดล้อม บริเวณสถานที่เกิดเหตุไว้ โดยสังเกต เห็นว่า พันเอกซก บันพอ ถืออาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก เอาไว้ในมือ จำนวน 1 กระบอก จึงได้บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ฯ บริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.12 อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ทหาร กองบิน 3 ปิดล้อม สถานที่เกิดเหตุ พร้อมจัดการจราจร ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยง เพื่อป้องกันการสูญเสีย พร้อมนี้ ได้ทำการประสาน กับเจ้าหน้าที่ทหาร,ตำรวจ และ ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา มายังสถานที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเจรจา

โดยช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. พันเอก ซก บันพอ ได้ลงมาจากรถ พร้อมถืออาวุธปืน พกสั้น แบบออโตเมติก ไว้ในมือตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ทหาร , ตำรวจ ทางฝ่ายทหาร ได้ทำการเจรจา กับ พันเอกซก บันพอ เพื่อให้วางอาวุธปืน และ มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่ พันเอก ซก บันพอ ไม่ยอมพูดจาใดๆ ยังเดินถืออาวุธปืน เดินไปมา บริเวณสี่แยกไฟแดงวัฒนานคร โดยไม่รับประทานอาหาร และ ไม่ดื่มน้ำแต่อย่างใด จนเวลาประมาณ 14.30 น. พันเอก ซก บันพอ มีท่าทางอิดโรย พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว จึงได้ร่วมวางแผน กับชุดปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดสะแก้ว เข้าชาร์ต และ สามารถทำการจับกุม พันเอก ซก บันพอ ได้ ณ ที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย อาวุธปืนพกสั้น แบบ ออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซีแซด รุ่น พี-07 หมายเลขประจำปืน D105961 พร้อมด้วยกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 17 นัด โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้น จึงได้ร่วมกันทำการจับกุม พันเอก ซก บันพอ พร้อมด้วยอาวุธปืน กระสุนปืน และ รถยนต์จี๊ป ดังกล่าวข้างต้น ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.สุรจิต กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จะตั้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหารายดังกล่าวว่า มีความผิดที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1.ฐานหลบหนีเข้าเมืองตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่ที่กำหนด ,2.ต่อสู้ หรือขัดขวางเข้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีอาวุธ ตาม ป.อาญา ม.138 , 140 วรรคท้าย ,3.ขับรถในทางโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43(2),(4), 4.ทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อาญา ม.358 ,5.มี,ทำ,สั่งนำเข้าซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ม.7,8,8ทวิ,72วรรคแรก,72 ทวิวรรคสอง, ป.อาญา 371 ,และ 6. ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ม.392

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีดังกล่าวถือเป็นกรณีความผิดเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันหลายท้องที่ ความผิดหลายกรรมกระทำลงในหลายท้องที่ ม ม.19 ทุกท้องที่ ที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นมีอำนาจสอบสวนได้ตาม ป.วิอาญา ม.19(2)(4) วรรคแรก และหากจับกุมตัวได้ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคือ ท้องที่ที่จับได้ตาม ม.19 วรรคสอง(ก) ในกรณีนี้ คือ สภ.วัฒนานคร เป็น พนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ โดยมูลเหตุของการเกิดเหตุดังกล่าว ทราบว่า เกิดความเครียดจากเรื่องส่วนตัว ทะเลาะกับภรรยาที่ประเทศกัมพูชา จึงขับรถเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และในเบื้องต้น ตรวจไม่พบสารเสพติด , หรือของมึนเมา หรือ แอลกอฮอล์ โดยช่วงท้าย พล.ต.ต.สุรจิต ได้กว่าชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สระแก้ว ที่ปฏิบัติตามยุทธวิธีโดยไม่การการสูญเสีย และเตรียมนำกรณีดังกล่าวไปถอดบทเรียนเพื่อรับมือการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในอนาคตด้วย

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"