X

สารภาพถูกกดดัน!!คว้าลูกซองสั้นสาดกระสุนใส่วงที่ประชุมหมู่บ้าน เจ็บ 2 ราย ถูกดำเนินคดีข้อหนักพยายามฆ่า-พกพาอาวุธปืน

สระแก้ว – ชายวัย 75 ปี ควงปืนลูกซองสั้น สาดกระสุนใส่ที่ประชุมหมู่บ้าน ม.23 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว อ้างว่า ถูกกดดัน ส่งผลให้มีชาวบ้านซึ่งเป็น อบต.และอาสาเกษตร บาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.วังน้ำเย็นและส่งต่อไปที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ส่วนผู้ก่อเหตุรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืนและกระสุนปืนที่เหลืออีก 3 ลูก ถูกดำเนินคดีข้อหนักพยายามฆ่า-พกพาอาวุธปืน

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 15 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้รับรับรายงานเร่งด่วนจาก นางฤดี ขำสุขเลิศ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 23 ตำบลทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ระบุว่า วันนี้ตั้งแต่ช่วงเวลา 07.00 น.ทางหมู่บ้านได้จัดให้มีการประชุมหมู่บ้าน เพื่อชี้แจงข้อราชการให้กับประชาชนในหมู่บ้านหมู่ 23 ได้ทราบข้อมูลต่าง ๆ ของทางอำเภอและจังหวัด ต่อมา เวลาประมาณ 07.40 น. ได้มีบุคคลยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นผู้ใด ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในสถานที่ประชุม ซึ่งจากการตรวจสอบมีประชาชนถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณสะโพก เป็นหญิง จำนวน 1 คน และกระสุนปืนถากร่างกาย เป็นชาย อีก 1 ราย รวมบาดเจ็บ 2 ราย หลังได้รับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ทันที พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าควบคุมตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งนั่งรอมอบตัวอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ

นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้รายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุสามารถควบคุมตัวผู้กระทำความผิดได้ ทราบชื่อต่อ นายล้วน สายโสภา อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 25 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ตรวจสอบพบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นปืนลูกซองสั้น ขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทางผู้นำหมู่บ้านและหน่วยกู้ภัยฯในพื้นที่ ได้นำส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวังน้ำเย็นทั้ง 2 ราย จากการตรวจสอบบาดแผล พบว่า ถูกกระสุนลูกปลายของปืนลูกซองเข้าที่บริเวณสะโพก จำนวน 2 เม็ด อาการปลอดภัย ถูกส่งต่อไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อผ่าตัดเอาหัวกระสุนลูกปรายออก ส่วนอีกราย เมื่อทำแผลเสร็จ ได้เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.วังน้ำเย็น

ทั้งนี้ ภายหลังควบคุมตัว นายล้วนฯ ผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทาง พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ได้เดินทางลงพื้นที่ไปสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาร พร้อมของกลาง อาวุธปืนลูกซองสั้น พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้ว 1 ปลอก กระสุนปืนที่เหลืออีก 3 ลูก และกระเป๋าสะพาย นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อบันทึกปากคำ โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่า สาเหตุที่นำปืนไปยิงเพราะ กดดัน จึงก่อเหตุ ดังกล่าวขึ้น ขณะเดียวกัน จากการสอบถามทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือด้านเกษตร แต่ถูกตัดออกไปจากกลุ่มด้วย

พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น เปิดเผยว่า เหตุยิงเข้าใส่ที่ประชุมหมู่บ้าน ได้รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ว่า มีการยิงกันในหมู่บ้าน ตรงศาลาประชาคม ทางเราพร้อมเจ้าหน้าที่สายสืบก็เดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็สอบถามและพบผู้ต้องหาอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืน จึงสอบถามว่า สาเหตุที่ไปยิงเพราะอะไร ผู้ต้องหาก็บอกว่า เค้าเครียด เค้าอึดอัด อีกอย่างผู้ต้องหามีอายุมาก จึงไม่ค่อยถูกกัน ไม่มีใครมายุ่งด้วย ไม่มีใครมาคบด้วย ทำให้เกิดอาการหลอน อาการเครียด ก็เลยแอบไปดักยิง แต่สอบถามว่า จะยิงคนไหน เค้าบอกว่า ยิงไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เจาะจงยิงใคร

ทั้งนี้ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น กล่าวอีกว่า ทางตำรวจจะต้องแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าฯ และพกพาอาวุธปืนฯ ซึ่งอาวุธปืน ลูกซองสั้น ตรวจสอบแล้วมีทะเบียน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตหรือไม่นั้น จากการสอบถาม ผู้ต้องหาไม่มีโรคประจำตัวและไม่ได้มียากิน แกปกติ ซึ่งไม่ได้มีการยืนยันจากแพทย์ว่า มีอาการทางจิต ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงจริง ทางพนักงานสอบสวนโดย พ.ต.ต.สิทธิพร ศรีมารัตน์ สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี จะได้สอบสวนผู้ต้องหาและพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อส่งตัวฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายเกรียงศักดิ์ วังคำ อายุ 53 ปี สมาชิก อบต.หมู่ 23 ต.ทุ่งมหาเจริญ กล่าวว่า หลังจากผู้บ้านใหญ่พูดเสร็จก็ให้ อบต.แถลงข้อมูลให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทราบว่า งบประมาณเข้าหมู่บ้าน งบใช้จ่ายมีอะไรบ้าง จะทำอะไรบ้าง พอตนยืนขึ้นพูด ก็ได้ยินเสียงปืน ก็หันมาดู ปรากฏว่า ที่เอวซ้ายเย็น ๆ จึงจับดูพบว่า เสื้อขาดและมีเลือดไหลออกมา จึงรู้ว่าตัวเองโดนยิง ซึ่งคนที่ยิงก็วิ่งออกไปข้างนอก เป็นการมายืนยิงข้างหลัง น้องผู้หญิงที่เป็นอาสาเกษตรหมู่บ้าน นั่้งข้างซ้ายก็ล้มลง จึงรีบไปหาหมอ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า สาเหตุการยิงมาจากอะไร ซึ่งคนก่อเหตุในช่วงวันพระก็จะหาว่า คนบ้านข้าง ๆ มาใส่มนต์ดำ ก่อนหน้านี้ไม่เคยทะเลาะกัน ตอนเกิดเหตุคนในที่ประชุมตกใจมาก ผู้ใหญ่ต้องวิ่งหนี ขณะนั้นยิงออกมาแค่นัดเดียว ถือว่า ยิงใกล้ ๆ ประมาณ 4-5 เมตร หลังก่อเหตุกำนันตำบลทุ่งมหาเจริญได้ตามไปจับตัวไว้ได้

ขณะที่ นายล้วน สายโสภา อายุ 75 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ถูกมนต์ดำมันทำ อยู่กันไม่เคยสร้างกรรมกับใครเลย มีแต่เขาเกลียดลุง ซึ่งคนใกล้ ๆ กันแถวนั้น ลุงเล่นมนต์ดำมาหลายครั้งหลายหนไม่งั้นก็ตายไปแล้ว พอแก้ปัญหาได้เค้าก็ถอดบารมีออกแล้วมาเล่นงานลุง ส่วนสาเหตุที่ไปยิง เพราะมันกดดัน จะตายเอา หายใจไม่ทั่วท้อง ตายดีกว่าอยู่ ก็เลยเอาปืนออกมายิง มันกดดันสุด ๆ แล้ว มันจะตายเอา ซึ่งก็รู้ว่ามันผิดกฎหมาย ไม่มีอะไรหรอก รู้หมด แต่มันกดดันเกิน ซึ่งเหตุที่ยิงก็เพราะคนมันกดดันเกิน ซึ่งเมื่อถามว่า ถูกชาวบ้านกดดันหรือไม่ นายล้วนตอบว่า ไม่รู้เขา ไม่เคยสร้างกรรมแม้แต่น้อย มีแต่ช่วยเหลือเขามาตลอด ไม่รู้ว่าเป็นไง กรรมลุงไม่เคยทำ ไม่เคยเบือหมูเบือหมา ฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ไม่ลักเล็กขโมยน้อยกิน มีความซื่อตรงตั้งแต่เกิดมา ซึ่งเมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่า ทำแบบนี้แล้วจะโดนจับ ลุงก็บอกว่า รู้ มันกดดัน บอกว่า กดดัน ตายก็ไม่กลัวแล้ว มันสุด ๆ แล้ว ซึ่งไม่ได้ตั้งใจยิงใคร ยิงมั่ว ซึ่งปืนก็เป็นปืนของลุงเอง ซึ่งมีตั้งแต่สมัยโบราณ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามนายล้วนฯ ว่า ต้องการยิงใครบ้าง นายล้วนก็ตอบว่า ไม่ได้ยิง ยิงมั่ว เห็นเค้านั่งประชุมกันอยู่ กดดันเกินไป ก็ยิงใส่เข้าไป และรู้ว่าเค้ามีการประชุมกัน รู้กันเยอะๆ กดดัน ตายแล้วก็แล้วไป ไม่รู้โดนใครบ้าง ยิงไปแค่นัดเดียว เพราะปืนมันขัดลำ มีเตรียมมาหลายนัด ถ้าไม่ขัดลำก็จะยิงจนหมด 4 นัด ซึ่งหลังก่อเหตุแล้วก็จะรับกรรมไป เพราะรู้ว่ามันผิด ส่วนลูกกระสุนปืนลูกซอง ซื้อมาลูกละ 40 บาท ราคาแพง ซื้อยากอีกด้วย ส่วนใครทำมนต์ดำใส่ตนก็ไม่รู้ รู้แต่คนเขมร มาจากเพชรบูรณ์ ส่วนคนที่ยิงก็ยิงมั่ว เขากดดันลุงเกิน จึงก่อเหตุดังกล่าว

————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"