X

กะโหลกโผล่!! ลุงผงะพบกะโหลกมนุษย์กลางทางเดิน แจ้งตำรวจตรวจสอบ

ปราจีนบุรี -ลุงผงะพบกะโหลกมนุษย์กลางทางเดินพื้นที่ริมทางรถไฟหมู่ที่ 16 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แจ้งตำรวจตรวจสอบ พบมีฟันหน้าเหลือ 3 ซี่

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชาวบ้านไปหาขี้ควายริมทางรถไฟ หมู่ที่ 16 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขณะเดินทางกลับบ้าน ได้พบหัวกะโหลกมนุษย์อยู่ริมทางเดิน ขณะกำลังจะเดินทางกลับบ้าน หลังจากเก็บขี้ควายแห้งใส่ถุงปุ๋ยไปขาย ด้วยความตกใจ ส่งเสียงร้องเสียงหลงและหยุดมองดู ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ พบกับ ลุงบรรจง จันทร์สอน ผู้พบเห็นกะโหลกมนุษย์

ทั้งนี้ ลุงบรรจง จันทร์สอน ชาวบ้านหมู่ 16 กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองออกจากบ้านมาหาเก็บขี้ควายตามทุ่งนาและริมทางรถไฟ เพราะมีเพื่อนบ้านสั่งให้เก็บเอาไปขาย เพื่อทำปุ๋ยคอก จึงออกมาหาเก็บขี้ควายไปขายให้เพื่อนบ้าน ขณะที่เก็บขี้ควายแห้งเต็มถุงปุ๋ย แล้วแบกบ้านเดินลัดเลาะริมทางรถไฟ ทันใดนั้นเห็นอะไรวางอยู่ตรงหน้าบนพื้นดินทางเดิน จึงหยุดมองดู ทันทีที่เห็น ยอมรับว่า กลัวมาก จึงได้รีบกลับบ้านไปบอกกู้ภัยฯ ให้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบด้วย กลัวว่าหมาจรจัดจะคาบหนีเข้าป่าไป คาดว่าที่เห็นหัวกะโหลกวางอยู่ตรงนี้ หมาจรจัดน่าจะคาบมา เมื่อเห็นตนเองเดินมาจึงวิ่งหนีไป

ทางด้าน ร.ต.อ.ศักรินทร์ เกิดผล รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบหัวกะโหลกสีดำเก่า มีฟันหน้าเหลืออยู่ 3 ซี่ จึงแจ้งหน่วยพิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี มาร่วมตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ญาติที่มาแจ้งความคนหาย มาขอดูและตรวจดีเอ็นเอต่อไป คาดว่า หัวกะโหลกดังกล่าวน่าจะถูกน้องหมาคาบมาจากที่ใดที่หนึ่งในป่ารกร้าง หรืออาจจะคาบมาจากป่าช้าเก่าของวัดในรัศมี 1-2 กม.

—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"