X

แฉขบวนการรีดส่วยโรงเกลือ “ค่าดูแลกัน” มี จนท.11 หน่วยมีเอี่ยว ด้าน ผกก.ตม.ลงพื้นที่ชี้แจง

(สระแก้ว) – เครือข่ายประชาชน จ.สระแก้ว แฉขบวนการรีดส่วยโรงเกลือ “ค่าดูแลกัน” มี จนท.11 หน่วยมีเอี่ยว ด้าน ผกก.ตม.ลงพื้นที่ชี้แจงผู้ค้าในตลาดโรงเกลือ

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ค้าขายสินค้าภายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากปัญหาโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ระบาดในปัจจุบัน ได้นำคลิปภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด หลังจากเดือดร้อนเพิ่มเติมจากปัญหาการถูกรีดไถจากผู้ที่อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ และถูกระบุว่า มีการทำเป็นกระบวนการ ซึ่งมีผู้เดือดร้อน ออกระบุว่า การเก็บส่วยมีอยู่จริง โดยอ้างว่า จะนำเงินที่เก็บได้ไปส่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยต่าง ๆ เพื่อไม่ให้มีการเข้าจับกุมแรงงานในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ

ทั้งนี้ นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชน จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากพื้นที่ตลาดโรงเกลือว่า การเก็บส่วยดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องถึง 11 หน่วย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยต่าง ๆ 8 หน่วย, ทหาร 2 หน่วย และหน่วยอื่น ๆ ที่ประจำชายแดน 1 หน่วย และให้คำจำกัดความของส่วยที่เก็บมาโดยเรียกว่า “ค่าดูแลกัน” โดยให้จ่ายค่าดูแลกันเดือนละ 1,000 บาท ต่อ 1 ร้าน กรณีที่ร้านนั้น ๆ มีจักรเย็บผ้า จะคิดตัวละ 500 บาทต่อเดือน ถ้ามี 10 ตัวก็ต้องจ่าย 5,000 บาท

“สำหรับกรณีนี้เรื่องแดงขึ้นมา เพราะมีทีมเก็บเดินมา 5 คน ซึ่ง 3 คนแรก เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานชายแดนหน่วยหนึ่ง ส่วนสองคนหลังเป็นมือเก็บ พ่อค้าแม่ค้าจึงมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดโปง เดิมการเก็บลักษณะนี้เคยทำมานานแล้ว ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะดูว่า มีแรงงานกัมพูชาเข้า-ออกไม่ถูกต้อง เมื่อเข้าไปเก็บทุกวันไม่ได้ ก็ จะให้เคลียร์เป็นรายเดือน เรียกว่า”ค่าดูแลกัน” จะเห็นได้ว่า ชาวกัมพูชาช่วงหลัง ๆ ไม่กลัว เพราะเมื่อมีเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจจับลิขสิทธิ์ฯ ก็จะมีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาแจ้งพ่อค้าแม่ค้าว่า ลิขสิทธิ์จะลงนะ จึงเป็นที่มาของการทำเรื่องพวกนี้ได้ตลอดมา” นายอัมรินทร์กล่าว

นอกจากนั้น วันนี้ (23 เม.ย.64) เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.สระแก้ว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ในสังกัดจำนวนกว่า 20 นาย นำแผ่นพับเขียนข้อความขั้นตอนแสดงอัตลักษณ์ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ไปทำการแสดงอัตลักษณ์ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เนื่องจากรัฐบาลไทยได้มีมติขยายเวลาแสดงอัตลักษ์แรงงาน 3 สัญชาติออกไปเป็นวันที่ 16 มิ.ย.64 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจำนวนมาก เข้าใจถึงความจำเป็นของการแสดงอัตลักษณ์ และพร้อมที่จะไปทำการแสดงอัตลักษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว

พ.ต.อ.รุ่ง กล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดสระแก้วมีแรงงานต่างชาติมาขึ้นทะเบียนไว้กับจัดหางานจังหวัด ทั้งหมดจำนวน 26,000 คน ซึ่งตอนนี้มีมาแสดงอัตลักษณ์กับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วเพียง 13,000 คนเท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นคือแรงงานส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆ รู้เพียงว่าเมื่อทำหนังสือกับจัดหางานจังหวัดแล้วก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้รู้ปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว เรียกรับเงินนั้น ขอยืนยันเลยว่า ไม่มีอย่างแน่นอน หากมีหรือพบบุคคลที่แอบอ้าง ขอให้บันทึกภาพเก็บส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วได้เลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว จะประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมตัวดำเนินคดีทันที

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายานว่า พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบ.ตม.3 ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ 0029.411/2564 ลงวันที่ 23 เม.ย.64 เรื่อง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวทางสื่อออนไลน์ว่า กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดโรงเกลือสุดจะทนฯ และมีการเดินเรียกเก็บเงินเป็นรายหัว ๆ 300 บาทและค่าเช่าห้องเป็นรายเดือน ๆ ละ 1,000 บาท โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่า เก็บเงินให้นาย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมจากสถานกงสุสกัมพูชาประจำประเทศไทย โดยให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการดำเนินการ ให้ บก.ตม.3 ภายในวันที่ 30 เม.ย.64 ก่อนเวลา 12.00 น.(ห้ามผัดส่ง) ด้วย

—————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"