สระแก้ว – นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว นางขวัญเรือน เทียนทอง แถลงนโยบายชูวิสัยทัศน์ 8 ด้าน นำสระแก้วไปสู่เมืองแห่งโอกาสและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไร้เงาอดีตรองนายกฯ 2 คน ที่มีกระแสข่าวว่าจะกลับมารับตำแหน่งทั้งคู่ ต้องมานั่งรอเก้อเนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว นางขวัญเรือน เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ในการประชุมสภาสมัยสามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2564 โดยใช้เวลาอ่านนโยบายเป็นเวลาประมาณ 45 นาที ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการนำวิสัยทัศน์อาทิ “เกษตรสะอาด ตลาดไฮเทค แหล่งเช็คอินท่องเที่ยว นำเทรนด์การศึกษา หาหมอสะดวกสบาย” เพื่อการนำจังหวัดสระแก้วไปสู่ “เมืองแห่งโอกาสและการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ สำหรับนโยบายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งนายก อบจ.สระแก้ว จะดำเนินการและมีการขยายขอบเขตการพัฒนาให้ครอบคลุมภารกิจหลักของ อบจ. จำนวน 8 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านการเกษตร 2. ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาตลาดการค้าชายแดน (ตลาดโรงเกลือ) 3. ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว 4. ด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและการกีฬา 5. ด้านสุขภาพและการพัฒนาคุณภาพชีวิต 6. ด้านการพัฒนาเมือง โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค คมนาคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 7. ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 8. ด้านการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล
นางขวัญเรือน ระบุด้วยว่า พี่น้องที่รักคะ การทำงานในนามขององค์กร แน่นอนว่าย่อมมีกรอบของกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่คอยกำหนดวัตถุประสงค์และภารกิจขององค์กรนั้น ๆ อยู่ นั่นรวมถึง อบจ. ที่ดิฉันได้รับเกียรติจากพี่น้องประชาชนให้เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายบริหารในครั้งนี้ ดังนั้น การกำหนดนโยบายให้เป็นไปตามกรอบดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องระบุถึงสิ่งที่จะทำอย่างกว้าง ๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ครอบคลุมทุกภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ. ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่จะดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ต่อไป และขอใช้โอกาสนี้กราบขอบพระคุณพี่น้องทุกท่านอีกครั้งสำหรับความไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังการแถลงนโยบายของนายก อบจ.สระแก้ว มีการคัดสรร และเลือกตัวแทน สจ.เพื่อร่วมคณะทำงานต่าง ๆ รวมทั้งมีการลุกขึ้นอภิปรายของ สจ.พื้นที่ต่าง ๆ ที่เกิดปัญหาใน จ.สระแก้วปัจจุบันด้วย อาทิ ร.อ.ทองทศ มากสาคร สจ.เขตอำเภอคลองหาด ได้อภิปราย เรื่องของเอกสารสิทธิ ที่ดิน ที่เป็นปัญหาใหญ่ของสระแก้ว จากพื้นที่ 4 ล้านกว่าไร่ คนสระแก้วมีเอกสารสิทธิ แค่ 7 แสนกว่าไร่ เท่านั้น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ 16.2% เท่านั้น นับเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และปัญหามีเจ้าหน้าที่บางหน่วยเข้าไปตบทรัพย์ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือและแรงงานในสวนลำไยหรือแรงงานตัดอ้อย ควรได้รับการแก้ไข
นอกจากนั้น น.ส.กัญญาภัทร ศิริวุฒิญาดา สจ.คลองหาดอีกคน ก็ได้นำเสนอปัญหาเรื่องความเดือดร้อน ถนนหนทางที่จะไปไร่ไปสวนของพี่น้องเกษตรกรชาวคลองหาดว่า หากถึงหน้าฝนอีก 2 เดือนข้างหน้าคงจะเป็นปัญหาหนัก ขอให้นายกฯช่วยดูแล เช่นเดียวกับ นายลือศักดิ์ ถาวรชน สจ.โคกสูง ได้พูดถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่เรื่องปัญหาประปาไม่ทั่วถึง ต้องเปิดปิดเป็นเวลา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการแถลงนโยบายฯว่า ขณะที่มีการประชุมสภาฯและแถลงนโยบายดังกล่าว ไม่พบว่า มีรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว คนที่ 1 และคนที่ 2 มาร่วมนั่งแถลงนโยบายกับที่ประชุมสภาแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้เดินทางมาที่ อบจ.ด้วย แต่ไม่สามารถเข้าประชุมได้ โดยมีเพียงเลขานุการฯและที่ปรึกษาเท่านั้นที่ร่วมนั่งแถลงนโยบาย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหลังการประชุมสภา อบจ.เสร็จสิ้น ทางทีมงานนายก อบจ.ได้จัดเลี้ยงโต๊ะจีนเป็นการขอบคุณแก่สมาชิกสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจ้างโต๊ะจีนสุดหรูจากโรงแรมดังในกรุงเทพฯ ราคาโต๊ะละเกือบ 20,000 บาท โดยใช้งบส่วนตัวมาร่วมจัดเลี้ยงด้วย
———————–
