X

สาวหิ้วไส้วอนหมอช่วย มีผู้บริจาคเงินแล้ว เจ้าตัวขอบคุณทั้งน้ำตา

ปราจีนบุรี – ความคืบหน้าสาวหิ้วไส้วอนหมอช่วยที่ จ.ปราจีนบุรี มีผู้บริจาคเงินแล้ว เจ้าตัวขอบคุณทั้งน้ำตาขอบคุณ

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสาว 48 ปีหิ้วไส้ร้องทุกข์ผ่านสื่อ วอนหมอช่วยนำไส้กลับเข้าไว้ในตัว หลังหิ้วไส้อยู่นอกตัว 13 ปี หลังจากที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้าน นางสุภารัตน์ ทิมมา ซึ่งพบว่า มีสีหน้าสดชื่นขึ้นโดยบอกว่า มีผู้ใจบุญดูข่าวโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนได้เล่าความเป็นมาให้ฟัง จากปากตัวเอง ทุกคนต่างพากันให้กำลังใจและบริจาคเงินให้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวในโอกาสต่อไป ขอให้รักษาตัวให้หายเป็นปกติโดยเร็ววัน ทุกคนเข้าใจคุณหมอที่รักษาในขณะนั้น

เธอบอกว่า เวลานี้มันผ่านเวลานั้นมานานแล้ว อาการที่หมิ่นเหม่ถึงชีวิตเชื่อว่า น่าจะไม่มีอะไรและไม่น่าเป็นห่วงแล้ว สิ่งที่เป็นอยู่ถ้าหากหมอได้วินิจฉัยใหม่รู้ว่าสามารถนำลำไส้ที่อยู่ด้านนอกกลับไปไว้ข้างในได้ ก็ควรรีบทำให้กับคนไข้ เพื่อลดความปลอดภัยในการใช้ชีวิตที่ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดทรมาน จากกรณีที่ลำไส้แค่นิดเดียว ทุกวันนี้ยาวใหญ่ขึ้น และดูแลรักษาไม่ถูกวิธี อาจจะเป็นอันตรายได้ง่าย

นางสุภารัตน์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณผู้สื่อข่าวและทุกคนที่บริจาคเงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีหมอที่ไหนพอจะทำการผ่าตัดใหม่ได้ ตนเองอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ทุกวันนี้ อยากทำงานเพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงชีพเหมือนคนอื่นเขา สงสารน้องชายมาก ร่างกายพิการแถมมีโรคประจำตัวอีก หากตนร่างกายดีจะได้ช่วยน้องทำงานหาเงินอีกแรงหนึ่ง แต่หากว่าหมอไม่สามารถผ่าตัดช่วยเหลือได้ก็คงต้องทำใจ ยอมรับสภาพว่า ตนเองจะต้องกลายเป็นคนพิการทางอ้อม หากเป็นแบบนี้ก็คงเป็นเวรกรรมต้องใช้กรรมจนกว่าจะตาย

—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"