ชาวบ้านดอนกลาง หมู่ 6 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนมร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเนื่องจากฟาร์มหมูที่เลี้ยงไกล้บ้านส่งกลิ่นรบกวนจนทนไม่ไหว ผู้สื่อข่าวจึงได้เพื่อตรวจสอบโดยได้พบกับนายอำพัน พันแพง อายุ 75 ปี และนางคำปุน พันแพง อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา ผู้ร้องเรียน กับชาวบ้าน อีกนับสิบคน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการที่ฟาร์มหมู่ส่งกลิ่นรบกวนมานานหลายปี จนญาติพี่น้องพร้อมลูกหลาน ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ก่อนหน้านี้พวกตนได้ร้องเรียนไปยังนายก อบต. หนองแวง เพื่อให้เข้ามาดูแลและหาหนทางแก้ไขกลิ่นเหม็นจากขี้หมู ให้กับชาวบ้าน ซึ่งทาง อบต. ก็ได้เข้าพบเจ้าของฟาร์มเป็นที่เรียบร้อยและแจ้งให้ทำบ่อเกรอะ 4 บ่อ ทางเจ้าของฟาร์มก็ปฏิบัติตาม แต่กินของขี้หมูก็ยังไม่หายเหม็น วันนี้ตนและชาวบ้านจึงได้ร้องผ่านสื่อลงพื้นที่เพื่ออยากจะให้เจ้าของฟาร์มย้ายที่เลี้ยงหมูออกไปอีก เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก
ไม่เว้นแม้แต่ พระสงฆ์ที่วัด วัดป่าสามัคคีธรรม พระธรรมฤทธิ์ ปัญญาวโร อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคีธรรม เปิดเผยว่าที่วัดก็เหม็นขี้ หมู เหมือนกันยิ่งเวลาลมพัดมาทางวัด ทำให้พระที่วัดเหม็นมากถึงกับอยากจะย้ายวัดหนีไปจำพรรษาที่วัดอื่น
ส่วนบ้านของนางสาวนางกฤษณา ภูดอนนา อายุ 34 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านคัา ขายของเบ็ดเตล็ด ได้อยู่ ระหว่างกลางพื้นที่ของฟาร์มหมูทั้ง 2 แห่ง ซึ่งได้รับผล กระทบมาก จึงอยากร้องหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้ลงมาดูแลและแก้ไข
นาง มณเฑียร อิ่มวิเศษ พร้อมสามี เจ้าของฟาร์มหมู บอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนเลี้ยงหมูที่นี่มานานกว่า 20 ปี ก่อนที่ชาวบ้านจะมาอยู่แล้วขยายออกมาตรงพื้นที่ที่ตนเลี้ยงหมู อยู่ ซึ่งขณะนี้ตนมีหมูอยู่ในฟาร์มประมาณ 80 ตัว ส่วนฟาร์มที่อยู่ด้านหน้าของบ้านผู้ร้องไม่ใช่ฟาร์มของตน ซึ่งมีหมูอยู่ประมาณ 70 ตัว ก็จะให้ความร่วมมือกับชาวบ้านเรื่องกำจัดกลิ่น และจะแก้ไขให้ดีที่สุด แต่จะให้ตน ย้ายที่เลี้ยงที่ใหม่ คงลำบากมาก ต้องหาเงินสร้างโรงเรือนเลี้ยงใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร
ล่าสุดทีมสื่อต่อสายตรงคุยกับนายชินวัตร ทองปรีชา นายอำเภอบ้านแพงให้พูดคุยกับชาวบ้าน ว่าจะลงพื้นที่และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายภายใน 1 อาทิตย์ เพื่อหาทางออกต่อไป
