X

นครพนม เตรียมบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ผู้ว่าฯ หารือจัดเตรียมงาน 7 วัน 7 คืน

นครพนม เตรียมบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ผู้ว่าฯ หารือจัดเตรียมงาน 7 วัน 7 คืน สร้างความพร้อมรับนักท่องเที่ยว

วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566 เวลา 13:30 น. ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมหารือเตรียมความพร้อมจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชประจำปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณลานพระยาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีกิจกรรม รำบวงสรวง 7 วัน พร้อมถือเป็นวันรวมชนเผ่าไทยนคร 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ โดยนางรำ จำนวนมากจากทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดนครพนม

พญาศรีสัตตนาคราช เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดนครพนม ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนม ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคของชาวไทยและชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลปักปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนาและองค์พระธาตุพนม ทั้งเป็นการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยองค์พญาศรีสัตตนาคราช เป็นตระกูลพญานาคที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งองค์พญาศรีสัตตนาคราชที่จังหวัดนครพนมจัดสร้างขึ้น จะหล่อด้วยทองเหลือง น้ำหนักรวม 9,000 กก. มีลักษณะเป็นพญานาค 7 เศียร พ่นน้ำได้ ขดตัวอยู่บนแท่นฐานแปดเหลี่ยม ที่มีขนาดความกว้าง 6 เมตร ความสูงรวมฐาน 15 เมตร

ตำนานพญานาค เป็นความเชื่อในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งชาวพุทธจะมีเรื่องที่ถูกเล่าขานต่อกันมาอย่างยาวนาน ทั้งในพุทธประวัติและเรื่องราวของเกจิอาจารย์ โดยพญานาค หรือ นาค มีภาษาอังกฤษ คือ King of Nagas มีรูปร่างลักษณะเป็นงูตัวใหญ่ มีหงอนสีทอง และตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลา มีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมีที่สื่อถึงความยิ่งใหญ่ มีบุญวาสนาและความอุดมสมบูรณ์ ส่วนลักษณะตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะมีความแตกต่างกันไป และที่สำคัญคือ พญานาคที่เป็นตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่หากเป็นตระกูลที่สูงกว่านั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียร หรือเก้าเศียร ซึ่งพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร ที่มีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มี 1,000 เศียร มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ ทั้งสามารถจะแปลงร่างเป็นเทพบุตรหรือเทพธิดาที่มีรูปร่างสวยงามได้ ส่วนการเกิดของพญานาค จะสามารถเกิดได้ 4 แบบ คือเกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที เกิดแบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม เกิดแบบชลาพุชะ เกิดจากครรภ์ และเกิดแบบอัณฑชะ เกิดจากฟองไข่ ซึ่งในลุ่มน้ำโขงเชื่อว่าการเกิดมาเป็นแม่น้ำโขงเกิดจากการแถตัวของพญานาค เนื่องจากพญานาคเป็นเจ้าบาดาลเป็นผู้ให้กำเนิดน้ำ โดยชาวไทยริมฝั่งโขงเชื่อว่า พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นกษัตริย์แห่งพญานาค ส่วนชาวลาวเชื่อว่าพญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) เป็นกษัตริย์แห่งพญานาค ซึ่งพญานาคทั้ง 2 องค์ จะชอบมาจำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุพนม ทำให้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันและคอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน