X

อดีต ประธานสภา อบจ. คนสนิท ครูแก้ว โดดซบพลังประชารัฐ ตั้งเป้าล้มแชมป์ 2 พรรคใหญ่ ภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อไทย

นครพนม – เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศ สนามการเมืองเริ่มคึกคัก หลังมีการกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส.ชัดเจน ส่งผลให้ ว่าที่ผู้สมัครพรรคต่าง ๆ เริ่มเปิดตัว เพื่อสร้างฐานคะแนนนิยม ชิงตำแหน่ง ส.ส.พื้นที่ โดย จ.นครพนม มีพื้นที่เลือกตั้ง 4 เขต

เช่นเดียวกันกับเขตเลือกตั้งที่ 1 ถือเป็นสนามเลือกตั้ง ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นของ นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีต ส.ส.แชมป์ นครพนม ตั้งแต่พรรคความหวังใหม่ ไทยรักไทย และผันตัวมาอยู่พรรคภูมิใจไทย และเคยนั่งตำแหน่ง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้เสียแชมป์แก่ นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย

ล่าสุด สนามเลือกตั้ง เขต 1 มีแนวโน้ม แข่งขันหนัก เนื่องจาก นายธงทิพย์ชลิต แห่สถิตย์ อายุ 57 ปี ส.อบจ.เขต อ.ศรีสงคราม อดีต ประธานสภา อบจ.นครพนม ได้ออกมาเปิดตัว เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เพื่อชิงตำแหน่ง พื้นที่ เขต 4 นครพนม หวังล้มแชมป์ 2 พรรคใหญ่ พรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย ที่สำคัญ ยังเป็นคนสนิท ของ นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีต ส.ส.แชมป์ นครพนม ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะแข่งขันหนัก

นายธงทิพย์ชลิต แห่สถิตย์ อายุ 57 ปี ส.อบจ.เขต อ.ศรีสงคราม อดีต ประธานสภา อบจ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนทำงานการเมืองท้องถิ่นมานาน เพราะมีความมุ่งมั่น อยากเห็นชาวบ้าน มีอยู่มีกิน ปัจจุบันมีครอบครัว อยู่ อ.ศรีสงคราม นครพนม โดยเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2535 เคยสมัคร ส.ส.พรรคพลังธรรม เคยร่วมต่อสู้กับ พลตรี จำลอง ศรีเมือง ต่อมาปี 2538 มาลง สมัคร ส.ส.พรรค ประชาธิปัติย์ สอบตกสองรอบ จากนั้นได้มาช่วยงานการเมือง ครูแก้ว มาตลอด
และได้มีโอกาสลงสมัคร ส.อบจ.นครพนม เมื่อปี 2541 สอบตก แต่ถึงปี 2547 ชนะเลือกตั้ง ส.อบจ.เขต อ.ศรีสงคราม ครองแชมป์ถึง 3 สมัย และได้นั่งตำแหน่งประธาน สภา อบจ.นครพนม ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2560

มาถึงวันนี้ตนถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางเส้นทางการเมือง ต้องการเป็นปากเป็นเสียงชาวบ้าน ในการหาแนวทาง ดูแลความเป็นอยู่ชาวบ้าน จึงตัดสินใจลงสนามการเมืองใหญ่ และลงตัว ร่วมทำงานกับทีม พรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้มาจากความขัดแย้งกับใคร รวมถึงครูแก้ว ยังสัมพันธ์ดี แต่คือวิถีเส้นทางการเมือง ซึ่งเปิดตัวเป็นทางการแล้ว พร้อมลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน 4 อำเภอ เพื่อชูนโยบายสำคัญ เน้นจะดูแลเพิ่มสวัสดิการ อสม. เงินดูแลสวัสดิการเด็กแรกเกิด ต้องเพิ่มขึ้น รวมถึงการดูแลความเป็นอยู่ประชาชนทุกด้าน
อย่างไรก็ตาม มาถึงวันนี้ ถึงแม้ตนจะเป็นผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ พรรคใหม่ แต่เชื่อมั่นในเส้นทางการเมือง คะแนนนิยม ส่วนบุคคล เป็นหลัก เพราะดูแลคลุกคลีชาวบ้านมานานกว่า 20 ปี อาชีพหลักคือเกษตรกร จึงไม่หนักใจในเรื่องกระแสพรรคใหญ่ 2 พรรค ในเขตเดียวกัน และเชื่อมั่น ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพรรคทางเลือกใหม่ ที่จะเรียกคะแนนนิยมจากประชาชน ได้แทบทุกเขต และเข้าไปเป็นรัฐบาล นำสู่การพัฒนาประเทศ ปราศจากความจัดแย้ง อย่างแน่นอน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน