อดีต ผบ.เรือนจำกระบี่ มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ ผู้คุม รวม 31 คน ที่ร่วมลงชื่อ ส่งหนังสือร้องเรียน ทำให้ถูกย้าย เชื่อว่าการปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ทำให้ขัดผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลต่างๆ ภายในเรือนจำ
นายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก นางยิ่งรัก โมราพันธ์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ เข้าแจ้งความต่อ ร้อยตำรวจเอก ไสว ชูแก้ว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ให้ดำเนินคดีข้อหา หมิ่นประมาทกับ เจ้าหน้าที่ ผู้คุม เรือนจำจังหวัดกระบี่ รวม 31 คน สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่ นางยิ่งรัก โมราพันธ์ ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ ผู้คุมเรือนจำจังหวัดกระบี่ ทั้ง 31 คน ได้ร่วมกันลงชื่อร้องเรียนไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า นางยิ่งรัก ขาดคุณธรรม จริยธรรม และขาดความโปร่งใสในการบริหารราชการ ทำให้นางยิ่งรัก โมราพันธ์ ถูกย้าย ไปประจำกรมราชทัณฑ์
นางยิ่งรัก โมราพันธ์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ถูกย้ายออกจากเรือนจำจังหวัดกระบี่ มาจากอาจขัดผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลภายในเรือนจำ เนื่องจากขณะที่ตนเป็นผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา มีการปรับเปลี่ยนระบบการจำหน่ายสินค้า ร้านสวัสดิการ ภายในเรือนจำ โดยให้มีการนำสินค้ามาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ถูกคุมขัง ซื้อได้ในราคา เป็นธรรม เปลี่ยนผู้ประกอบการที่ซื้อวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารให้กับผู้ถูกคุมขัง ทำให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น ตามหลักเกณฑ์ที่กรมราชทัณฑ์กำหนด มีการจับกุมการลักลอบให้โทรศัพท์มือถือ ภายในเรือนจำได้ 2 เครื่อง กวดขันห้ามเล่นการพนันทุกชนิดภายในเรือนจำ และตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดผลประโยชน์ ของกลุ่มบุคคลต่างๆ ภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ จึงแจ้งความดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ ผู้คุม ทั้ง 31 คน ที่ร่วมลงชื่อ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง และพร้อมจะเปิดเผยความไม่ชอบธรรม การทุจริตต่างๆ ภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่
โดยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ นัดสอบปากคำ นางยิ่งรัก โมราพันธ์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ ในวันที่ 12 ธันวาคม นี้
