พระนครศรีอยุธยา-ไฟไหม้บ้านเช่ากลางดึกหนีตายกันอลหม่าน วอดไป 14 หลัง คนแก่วัย 70 หนีตายรอดหวุดหวิด
เมื่อกลางดึกวันที่ 10 มีค พ.ต.ท.ธวัชชัย จันทร์เรือง สว.เวรสภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในซอยใกล้กับสถานีรถไฟภาชี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีระวุฒิ แสงมณี รองผกก.ป.สภ.ภาชี รถเทศบาลตำบลอุทัย อบต.ห้วยขมิ้น อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เทศบาลตำบลภาชี เทศบาลตำบลท่าเรือ เทศบาลตำบลนครหลวง เทศบาลตำบลโรงช้าง และอบต. เกาะเรียน มูลนิธิพุทไธสวรรย์ (ป่อเต๊กตึ้ง) จำนวนกว่า 20 คันไปยังที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
จุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นห้องแถวไม้สองชั้น อายุเกือบร้อยปี อยู่ในซอยห่างจากตัวตลาดภาชีและสถานีรถไฟประมาณ 200 เมตร บริเวณโดยรอบมีบ้านเรือนประชาชนหนาแน่น เจ้าหน้าที่ต้องลากสายดับเพลิงเข้าไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากซอยแคบ จึงต้องใช้เครื่องดับเพลิงหาบหามกว่า 10 เครื่องเข้าไปช่วยทำการสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ โดยเพลิงลุกไหม้จากบริเวณห้องที่สาม แล้วลุกลามไปยังห้องข้างเคียง จนท.ใช้เวลากว่า 1 ช.ม.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ พบว่าเพลิงไหม้ห้องแถวซึ่งแบ่งเป็นห้องจำนวน 11 ห้อง และบ้านเรือนที่ได้อยู่ใกล้เคียงเสียหายไปอีก 3 หลังรวมเป็น 14 หลัง
นางโสพิศ แสงสุข อายุ 49 ปีอยู่บ้านเลขที่ 276 ห่างจากบ้านต้นเพลิงสองห้อง เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุออกไปอยู่บ้านญาติห่างออกไปเกือบ 1 .กม.มีเพื่อนบ้านตะโดนบอกว่าบ้านไฟไหม้ จึงรีบวิ่งกลับมาปรากฎว่าเพลิงไหม้ห้องของตนไปหมดแล้ว ส่วนนางเฉลิม ศรีไกรสุข อายุ 70 ปีแม่ของตนช่วงเกิดเหตุอยู่กับน้องหนีรอดออกมาได้ ซึ่งบ้านที่เกิดเพลิงไหม้นี้ เคยเป็นโรงแรมเก่าทั้ง 11 ห้อง และเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงอายุเกือบร้อยปี ใครที่เดินทางมาทางรถไฟก็จะพักที่โรงแรมนี้ ต่อมาได้กลายเป็นห้องเช่าราคาเดือนละ 1 พันบาทมีชาวบ้านเช่ามากว่า 30 ปี จนมาถูกเพลิงไหม้ดังกล่าว
จาการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าต้นเพลิงมาจากบ้านของนางใจดี ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 70 ปีเศษ เลขที่274 ซึ่งอยู่คนเดียว ก่อนเกิดเหตุพบว่าไฟฟ้าบ้านของนางใจดีดับ นางใจดีได้เดินออกไปขอเทียนไขจากเพื่อนบ้าน ขณะที่กำลังจะเดินกลับไป ก็พบว่ามีเพลิงลุกไม้อย่างรวดเร็วที่ชั้นสองของบ้าน ชาวบ้านจึงพานางใจดีวิ่งหนีออกมาจากบ้านได้อย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัยข้างเคียงจำนวน 11 ห้องที่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่และเด็กก็สามารถหนีออกมาได้ทันทั้งหมดอย่างปลอดภัย
ต่อมานายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุ และพร้อมทั้งประสานทางเทศบาลตำบลภาชี ให้จัดเตรียมหอประชุมให้ชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกเพลิงไหม้เข้าพักอาศัยชั่วคราว เพลิงไมส่วนสาเหตุในเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุและยังไม่ทราบว่าต้นเพลิงเกิดจากบ้านหลังใดต้องเรียกประชาชนที่เห็นเหตุการณ์มาทำการสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และให้การช่วยประชาชนที่ประสบอัคคีภัยต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: