ราชบุรี ในวันนี้(9 พ.ค.67) นายจุลพงศ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายปิยพงษ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบที่โรงงานแวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อสำรวจกากขยะอุตสาหกรรมและวัตถุอันตรายที่ยังเหลืออยู่ในโรงงาน หลังจากที่มีบริษัทเอกชนเข้ามารับเหมาทำการขนย้ายอกไปแล้วจำนวน 12,000 ตัน งบประมาณจำนวน 59 ล้านบาท และหมดสัญญา เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา แต่ยังคงมีกากขยะอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ภายในโรงงานทั้งที่อยู่บนดินและถูกฝังกลบอยู่ใต้ดินที่ยังรอการขนย้ายออกจำนวนมาก จึงต้องมีการทำโครงการต่อเป็นระยะที่ 2
ซึ่ง นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่มีบริษัทเอกชนเข้ามารับจ้างขนย้ายสารเคมีวัตถุอันตรายและกากขยะอุตสาหกรรมได้หมดสัญญาไปเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทางกรมก็อยู่ระหว่างการตรวจรับงาน งวดที่ 2 และ 3 พร้อมกัน วันนี้จึงต้องมาดูความเรียบร้อยของการดำเนินการ ซึ่งภาพรวมของวันนี้ก็พบว่ามีการนำกากขยะและวัตถุอันตรายออกไปกำจัดแล้วประมาณ 12,000 ตัน แต่จากการประเมินปริมาณกากขยะและวัตถุอันตรายในแต่ละโรงนั้นมีจำนวนเยอะกว่าที่เราคาดไว้ ซึ่งที่ผ่านมาเราตั้งงบประมาณในการดำเนินไว้ประมาณ 60 ล้านบาท แต่ได้มา59 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะขนย้ายสิ่งที่มีอยู่บนดินและเรามองเห็นออกได้ทั้งหมด แต่เมื่อมาดำเนินการเข้าจริงเราพบว่ามียังกากขยะและวัตถุอันตรายตกค้างอยู่จำนวนมาก ทำให้ในระยะที่ 2 ของการดำเนินการ จึงต้องเคลียร์สิ่งที่ตกค้างทั้งที่อยู่บนดินที่ค้างจากในระยะแรกและของใต้ดินอีก ซึ่งประเมินไว้ 7,000 ตัน เนื่องจากช่วงแรกที่ขนของบนดินออกเราก็กลับพบว่ายังมีการนำไปฝังไว้ตินอีกจำนวนมาก ทำให้การประเมินนั้นค่อนข้างลำบาก แต่ทั้งนี้ก็จะต้องทำต่อ ส่วนเรื่องของงบประมาณก็จะมาจากการจัดสรรงบประมาณ 2568 อีกส่วนมาจากงบกลาง ซึ่งเป็นการของทั้งสองทาง ส่วนของเสียที่ยังตกค้างอยู่ก็มีการจัดระเบียบไว้เรียบร้อย และกากของเสียที่อยู่ที่โรงงานแห่งนี้จะเหมือนที่โรงงานในจังหวัดอื่นๆ เพราะเป็นสารที่ลุกติดไฟง่าย จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดเพลิงไหม้หรือไม่ วันนี้ได้เข้ามาสำรวจก็จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องให้คอยเฝ้าระวังและไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ ส่วนบริษัทที่จะเข้ามาดำเนินการในระยะที่ 2 นั้นก็จะต้องเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางกรมฯ ส่วนกากขยะอุตสาหกรรมและวัตถุอันตรายที่ยังเหลืออยู่อีกประมาณ 7,000 ตัน นั้นคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวน 35 ล้านบาทในการเข้ามาดำเนินการต่อ แต่จะต้องมีการสำรวจก่อนว่ามีกองขยะบนดินหรือใต้ดินมากน้อยแค่ไหน ส่วนการที่จะกันให้พื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่อันตรายหรือไม่นั้นก็ต้องบอกว่าพื้นที่ทางโรงงานทั้งหมดแห่งนี้ถูกอายัดไว้ทั้งหมดแล้วและห้ามบุคคลภายนอกเข้าออก ส่วนใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงานตอนนี้เหลือ 5 ใบ แต่วันนี้จะทำการประกาศยกเลิกอีก 2 ใบ ส่วนถังโลหะขนาด 20 คิวจำนวน 35 ใบ ที่ทางกรมได้ทำการอายัดไว้ทราบว่าทางโรงงานแอบนำออกไป ซึ่งทางกรมก็จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินการกับผู้ที่นำสิ่งของที่ทางกรมอายัดไว้ออกไปด้วย
