ราชบุรี เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 5 มี.ค.64 พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ บัวโพธิ์ สารวัตรเวรสภ.บ้านดป่ง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายเข้าไปชิงทองในห้างทองเยาวราชเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบ้านโป่ง หมู่ 5 ต.หนองอ้อ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วัชระพงษ์ อมราพิทักษ์ รองผบกงภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ รองผบกงภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงศ์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.บ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์ โดยมีพนักงานของร้านทองยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในร้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำเชือกมากั้นพื้นที่ไว้
พร้อมกับสอบถามพนักงานในร้าน เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุนั้นเป็นชายรูปร่างเตี้ย สวมหมวกแก๊ปสีฟ้า ขาว สวมแว่นตาดำ สวมเสื้อคลุม สีฟ้า นุ่งกางเกงวอร์มสีดำแถบด้านข้างสีขาว สะพายกระเป๋า ถือปืนไม่ทราบขนาดวิ่งเข้ามาในร้านทอง พร้อมทั้งกระโดดขึ้นไปบนเคาท์เตอร์กระจก พร้อมกับเปิดตู้และกวาดทองในตู้ไปและวิ่งหนีออกไปจากห้าง ท่ามกลางความตกใจของพนักงานและชาวบ้านที่มาเดินในห้าง ที่ต่างส่งเสียงหวีดร้องด้วยความกลัว จากนั้นคนร้ายได้ออกไปประตูหน้าห้าง ออกไปขับรถปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ ตอนครึ่ง สีขาว วงล้อเป็นสีเงิน ไม่ทราบแผ่นป้าย ขับออกไปทางตัวเมืองบ้านโป่ง ส่วนทองคำที่หายไปนั้น รวมทั้งหมด 57 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กำลังทำการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อหาแผ่นป้ายทะเบียนและหาเบาะแสคนร้าย
จากการสอบถามนางสาวระพีพรรณ เชาว์ดี อายุ 38 ปี พนักงานในร้านทอง ก็เล่าให้ฟังว่าขณะกำลังยืนอยู่ในร้าน ก็เห็นคนร้ายเป็นชาย 1 คน มาจากทางไหนไม่ทราบ แต่ได้ยินเสียง ตะโกนว่า เฮ้ย ก็หันไปมอง เห็นคนร้ายถือปืนแล้วกระโดดขึ้นไปบนเคาเตอร์กระจก ตนกับพนักงานคนอื่นๆ ก็หมอบกับพื้น ทันทีด้วยความกลัว จนคิดว่าคนร้ายไปแล้ว จึงได้ลุกขึ้นมา ส่วนทองที่หายไปนั้น ได้ทำการตรวจเช็คอย่างละเอียดแล้ว พบว่า หายไปทั้งหมด 57 บาท
นอกจากนี้นางสาววาสนา ทาหอม อายุ 40 ปี และนางสาวศิริพร ภูมิรักษ์ อายุ 28 ปี แม่ค้าขายเครื่องสำอาง ที่อยุ่ใกล้กับร้านทองก็บอกว่า ในช่วงที่คนร้ายวิ่งออกมาจากร้านทอง ก็ใช้อาวุธปืนมาจ่อที่ตนกับน้อง และบอกว่าอย่ามายุ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไป ซึ่งตนกับน้องนั้นกลัวมาก จึงได้รีบหมอบลงกับพื้น
ส่วนเจ้าของร้านขายโทรศัพท์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านทอง ก็ทราบว่า จังหวะที่ตนเงยหน้ามองไปที่ร้านทองก็เห็นคนร้ายถือปืนกระโดดขึ้นไปบนตู้กระจก และเปิดตู้กระจกหยิบทอง ก็ตกใจรีบก้มลงทันที เพราะกลัวมาก ได้ยินเสียงร้องดังไปหมด พอเงยหน้ามาคนร้ายก็ไปแล้ว ไม่รู้ว่าคนร้ายมาจากทางไหน หรือวิ่งไปทางไหน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตั้งด่านสกัดจับในเส้นทางต่างๆที่คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนี และเมื่อตรวจสอบรถที่คนร้ายใช้เป็นรถปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ ตอนครึ่ง สีขาว วงล้อเป็นสีเงิน ไม่มีการติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงต้องทำการตรวจสอบหาลักษณะของคนร้ายและรถโดยละเอียด จากกล้องวงจรปิด ซึ่งคนร้ายนั้นคาดว่าน่าจะมีการวางแผนมาอย่างดี โดยมีการมาดูลาดเลาไว้ก่อน และใช้พลาสติกพันนิ้วมือทั้งหมด จนหาร่องรอยของลายนิ้วมือแฝงไม่ได้เลย
