ป่าไม้ลำปางสนธิกำลังตำรวจ อส.บุกยึดพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง 2 พบมีคนบุกรุกทำประโยชน์
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.6 (แม่ทรายคำ) สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่า ไม้ สายที่ 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ลำปางศูนย์ป้องกันและปราบปราม ที่ 3 ภาคเหนือ กองกำกับการ 4 กองปราบปรามการกระทำผิดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจ ปทส.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง, ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เชียงใหม่ อส.อำเภอเมืองลำปาง ผุ้นำหมู่บ้าน ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมืองลำปาง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุก ตามที่ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีหมายแจ้งคำสั่งศาลคดีหมายเลขดำที่ 99/2555, 35/2558 วันที่ 19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2560 ว่าผู้ฟ้องคดีที่ 1 (นายบุญสม ชมพูมิ่ง) ได้แถลงด้วยวาจาประกอบเอกสารภาพถ่ายในวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกว่า ปัจจุบันยังมีการบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้ายโดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแล ศาลรับเอกสารประกอบคำแถลงไว้ ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายซึ่งได้ส่งมาพร้อมกับหมายนี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบภาพถ่าย และให้กลุ่มอนุรักษ์ลำปาง ของผู้ฟ้องคดีนำพาไปชี้จุดที่ส่งรูปแจ้งให้ศาลฯว่ามีการบุกรุกป่า
โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณ ข้างเส้นทางถนนสายบ้านจำบอน-บ้านเอื้อม ติดกับป่าช้าตำบลต้นธงชัย ท้องที่บ้านจำบอน หมู่ที่ 10 ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จึงได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งในบริเวณเป็นที่โล่งกว้าง มีต้นไม้ขนาดเล็ก(ยางพารา)ขึ้นอยู่ประปราย ไม่มาก และพบร่องรอยการใช้รถไถ ไถพรวนดินเอามันสำปะหลังออกไปแล้ว จำนวน 5 แปลง บางแปลงยังมีต้นมันสำปะหลังอยู่ บางแปลงเป็นที่โล่งไม่ได้ทำประโยชน์ โดยในพื้นที่ไม่มีแนวรั้วล้อมกั้นแบ่งแต่อย่างใด และด้านทิศตะวันตกของป่าช้า ซึ่งอยู่ติดกับแปลงปลูกมันสำปะหลังได้พบการบุกรุกพื้นที่โดยมีเสาปูนซีเมนต์ฝังดินทำเป็นแนวรั้วล้อมรอบทุกด้าน ในแปลงเป็นที่โล่ง ไม่มีการทำประโยชน์ พื้นที่ทั้งหมดไม่พบบุคคลหรือยานพาหนะอยู่ในบริเวณแต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องมือวัดค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียม(GPS)จับจุดพิกัดโดยแยกเป็น 2 แปลง คือแปลงที่ปลูกมันสำปะหลังที่ไม่มีแนวรั้วกั้น และแปลงที่มีเสาปูนซีเมนต์ฝังทำเป็นแนวรั้ว ซึ่งแปลงที่ปลูกมันสำปะหลังไม่มีแนวรั้วกั้น จำนวนเนื้อที่ 44 – 2 – 04 ไร่โดยได้นำค่าพิกัดทั้ง 2 แปลงตรวจสอบแล้วพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของป่าแม่เมาะแปลง 2 รวมเนื้อที่ทั้งหมด จำนวน 598-1-21 ไร่ ซึ่งพื้นที่ป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย(ป่าแม่เมาะแปลง 2)ทั้งหมด การเข้าบุกรุกทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และ 72 ตรีฐาน “ก่อสร้าง เข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงร่วมกันทำการตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวได้เนื้อที่และค่าพิกัดตามรายละเอียด คิดค่าเสียหาย เป็นเงิน 40,830,687.43 บาท บันทึกตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝาย เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
