X

นายอำเภอเกาะคาลำปางแจ้งความดำเนินคดีพนักงานเอกชน ติดเชื้อโควิดไม่ยอมกักตัวมั่วสุมจนแพร่ระบาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ได้มอบหมายให้นายรณรงค์ พงษ์สวัสดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเกาะคา เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ. เกาะคาจังหวัดลำปาง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี กับนายวาทิตรักษาวงศ์อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 159/1 หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ผู้ป่วยรายแรกของอำเภอเกาะคาที่ ไม่กักตัว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในฐานความผิด “ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548 (ฉบับที่ 24) ประกาศ ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2564 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รับโทษตามกฎหมาย ต่อร.ต.อ.กันตกวี มีธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เกาะคา ลำปาง


ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางนายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเกาะคาได้ เรียกประชุมด่วนฝ่ายปกครองเกี่ยวกับการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ 2548 (ฉบับที่ 24)ประกาศ ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2564ตามที่อำเภอเกาะคาเริ่มมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายแรกเป็นเพศชาย อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานส่งของบริษัทเอกชน และได้เดินทางกลับมาจังหวัดลำปาง แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนด อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ไปร่วมดื่มสุราสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อน จนเป็นสาเหตุทำให้คนในครอบครัวติดเชื้อโควิด ซึ่งกรณีดังกล่าวได้ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนที่ระบุมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนคลัสเตอร์ ในพื้นที่อำเภอเกาะคา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้น จึงเรียกประชุมด่วนยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่อย่างเข้มข้น และได้แจ้งให้ทุกภาคส่วนดำเนินการตามมาตรการต่างๆตามหนังสืออำเภอเกาะคาที่ ลป.0232/3733 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 นอกจากนี้อำเภอยังได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการของจังหวัดลำปางอย่างเฉียบขาด

จากกรณีดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 07.00 น.นายวาทิต รักษาวงศ์ ผู้ต้องหาเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมเฝ้าระวังสูงสุดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 กลับมาถึงจังหวัดลำปางที่บ้านเลขที่ 159/1 หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. โดยไม่แจ้งให้ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะคา อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านน้ำล้อมและไม่กักตัวป้องกันตนเองอยู่บ้าน ยังไปทำงานรับส่งสินค้าในเขตตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง ทั้งยังไปนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ร้านแสงจันทร์กับเพื่อนอีก 5 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผู้ต้องหาเริ่มมีการเป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เมื่อไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเกาะคาปรากฏว่าติดเชื้อโควิด-19 ทั้งยังแพร่เชื้อไปสู่มารดา ตายาย หลานอีก 3 คน และเพื่อนของผู้ต้องหาอีก 1 คน รวมจำนวน 7 คนจนเกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 เข้าสู่ชุมชนในเขตตำบลน้ำล้อม อำเภอเกาะคาและในวันนี้ ปลัดฝ่ายความมั่นคง ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวน สภ.เกาะคาให้ดำเนินคดีกับนายวาทิต รักษาวงศ์ ผู้ต้องหา ในฐานความผิดดังกล่าวข้างต้นเพื่อให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีถึงที่สุดเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 และ 18 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท และ ฝ่าฝืนคำสั่งผู้วาราชการจังหวัดที่ออกตามข้อกำหนด ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฯ ตาม ป.อาญา ม.368แม้ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม ม.34 และ 51 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท อาจไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข เนื่องจากจะต้องมีการออกคำสั่งเป็นหนังสือเป็นการเฉพาะรายตามที่กฎหมายพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ กำหนดไว้ ออกคำสั่งวา บุคคลนั้นต้องปฏิบัติตนอย่างไร แล้วไม่ปฏิบัติจึงจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนตามกฎหมายนั้น แต่อย่างไรก็ดี บุคคลนั้นก็มีความผิด ตาม.9,18 ซึ่งเป็นข้อหาฉกรรจ์กว่า เมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.แล้ว ทางคดีพนักงานสอบสวนจึงสามารถรับคำร้องทุกข์ สอบสวนดำเนินคดี และฟ้องต่อศาลต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน