ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ถือว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้าย ในพื้นที่จังหวัดลำปางถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการแข่งขันกันสูง และดุเดือดทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครลำปาง
มีถึง 5 กลุ่ม ที่ลงชิงชัยครบทุกเขตเลือกตั้ง ได้แก่ นายณรงค์ พินธิสืบ กลุ่มความสุขนครลำปาง หมายเลข 1 ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกอบจ.ลำปาง หลายสมัย เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร-บ้านจัดสรร ที่ลงมาสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครลำปางและส่งทีมสมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง ลงชิงตำแหน่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกได้หมายเลข 1 นายนิมิตร จิวะสันติการ กลุ่มนครลำปาง ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีนครลำปาง ได้หมายเลข 2 นายอภิชัย สัชฌะไชย กลุ่มลำปางพัฒนา เป็นลูกชายอดีตนักการเมืองท้องถิ่นสภาเทศบาลนครลำปาง นักธุรกิจรุ่นใหม่ ได้หมายเลข 3 นายกิตติภูมิ นามวงค์ กลุ่มภูมิลำปาง อดีตนายกเทศมนตรีนครลำปางคนล่าสุด ได้หมายเลข 4 คนสุดท้ายคือนายปุณณสิน มณีนันทน์ กลุ่มลำปางก้าวหน้านักธุรกิจรุ่นใหม่ ทายาท ธุรกิจยาผงแดงอินแขวน ได้หมายเลข 5
ส่วนบรรยากาศต่างอำเภอ ก็คึกคักเช่นกัน ผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงหนักใช้วิธีเดิน ขอคะแนนเสียงชาวบ้านแบบหลังคาต่อหลังคาเดินบ้านทุกหลัง ทำให้บรรยากาศคึกคักเนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งมานานประชาชนมีการตื่นตัวพร้อมที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส่วนกระแสการซื้อสิทธิขายเสียงก็มีข่าวลือทุกพื้นที่และมักจะเกิดขึ้นหากมีการเลือกตั้งทุกระดับ
ขณะเดียวกันบรรยากาศการหาเสียงผู้สมัครเข้มข้นไม่แพ้ที่อื่น ผู้สมัครเดินเคาะประตูบ้านอ้อนขอคะแนนเสียงแบบหลังต่อหลัง ทำให้การหาเสียงรวมถึงการตื่นตัวของพี่น้องประชาชนที่จะออกไปใช้สิทธิเริ่มคึกคักเช่นกัน ส่วนอดีตครูเกษียนชาวตำบลแจ้ห่ม อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ออกมาเปิดเผยว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ตนในนามชาวตำบลแจ้ห่มอยากให้นายกเทศมนตรีคนใหม่ ที่จะเข้ามาบริหารอยากให้นำความเจริญเข้ามาพัฒนาบ้านเราเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนมีความเจริญก้วหน้าทัดเทียวที่อื่น อยากให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว ส่วนกระแสเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ตนคิดว่าคงไม่มี เพราะว่าประชาชนพัฒนาในเรื่องความคิดทุกคนที่ความคิดถ้าสิทธิเราเสียงเราเอาไปขายก็จะมีค่าแค่เงินไม่กี่บาทกี่สตางค์การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแค่คิดก็ผิดแล้วไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการซื้อสิทธิขายเสียงอยากให้คนแจ้ห่มใช้วิจารณญาณ ในการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะว่าจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าและเป็นอนาคตบ้านเมืองเรา
