เมื่อเช้าวันที่ 22 ก.พ.2563ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตำรวจสายตรวจสภ.เกาะคา ลำปาง กำลังปฏิบัติหน้าที่เวรฯอยู่ในพื้นที่และที่ทำการสายตรวจสภ.เกาะคาลำปาง (โรงพักเกาะคาเก่า) อยู่นั้นได้มีพลเมืองดี นำกระเป๋าพร้อมบัตรประชาชนและเงินสดจำนวน 130,000 บาท ที่เก็บได้กลางถนน นำมาฝากและมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพื่อติดตามหาเจ้าของกระเป๋าซึ่งคาดว่าบุคคลตามบัตรประชาชนน่าจะเป็นเจ้าของเพื่อมาติดต่อขอรับคืนโดยพลเมืองดีที่เก็บกระเป๋าได้ไม่ขอเปิดเผยชื่อ-ที่อยู่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบันทึกภาพและขอชื่อที่อยู่พลเมืองดีเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานไว้แล้ว จากการตรวจสอบบัตรประชาชนระบุชื่อนางอรนงค์ ไปเมือง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.1 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง จากนั้นเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงประสานผู้นำท้องถิ่น และคนที่รู้จักนางอรอนงค์ ให้เดินทางมาที่ทำการสายตรวจสภ.เกาะคาลำปาง (โรงพักเกาะคาเก่า) เพื่อตรวจสอบกระเป๋า
ต่อมานางอรอนงค์ ไปเมือง พร้อมลูกชาย ได้เดินทางมาถึงและแสดงตัวเป็นเจ้าของกระเป๋าติดต่อขอรับคืนซึ่งนางอรอนงค์ฯแสดงอาการดีใจที่ได้กระเป๋าคืน และได้ทำการตรวจดูทรัพย์สินแล้วอยู่ครบถ้วนถูกต้อง มีเงินสดจำนวน จำนวน 130,000 บาทพร้อมบัตรประชาชนของนางอรอนงค์ เจ้าหน้าที่ จึงถ่ายภาพบันทึกไว้การรับมอบไว้เป็นหลักฐานได้ โดยนางอรอนงค์ฯบอกดว่าตนเป็นเจ้าของเขียงหมูและขายเนื้อหมูที่ตลาดสดบ้านเข้าซ้อน ต.ไหล่หิน องเกาะคา จ.ลำปาง ก่อนที่จะทราบว่ากระเป๋าเงินลูกชายได้เอากระเป๋า 2 ใบ ใส่ไว้ตรงช่องเก็บของด้านหน้ารถจักรยานยนต์ ฟีโน่ แล้วขับไปตลาดมาก่อนจะทำกระเป๋าตกหายระเป๋าสตางค์ 2 ใบใส่ไว้ตรงช่องเก็บของด้านหน้ารถจักรยานยนต์ฟีโน่แล้วขับมาทำตกหาย ใบหนึ่งมีเงินแสนกว่าบาทส่วน อีกใบหนึ่งมีเงินสี่หมื่นกว่าบาทยังหาไม่เจอ และกำลังจะไปแจ้งความก็ทราบรับแจ้งว่ามีคนเก็บกระเป๋าพร้อมบัตรประชาชนของตนได้จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบและติดต่อขอรับคืนดังกล่าว ตนขอขอบพระคุณพลเมืองดีอย่างสูงที่เก็บกระเป๋าพร้อมเงินสดมาคืนขอขอบพระคุณจากใจจริง และขอวอนคนที่เจอหรือเก็บกระเป๋าอีก1ใบที่ตกหายขอนำมาคืนเพราะว่าเป็นเงินที่เก็บไว้หมุนเวียนค้าขาย
