คืบหน้า ไฟไหม้โรงแรมเมืองท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย พบส่วนใหญ่สำลักควันไฟ

สงขลา –สะเดา คืบหน้าไฟไหม้โรงแรม ย่านเมืองท่องเที่ยวชายแดนไทย – มาเลเซีย นักท่องเที่ยวกว่าครึ่งร้อยหนีตาย ทั้งปีนระเบียงหนี และวิ่งไปชั้นบน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยกว่า 10 คน มีบางรายสำลักควันไฟจนหมดสติ กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

จากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวชายแดนสะเดา ไทย-มาเลเซีย เมื่อเวลาประมาณ 08.30 วันนี้ ( 12 เมษายน ) ทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเข้าพักในโรงแรมจำนวน 16 ห้อง ประมาณ 50 คน ต่างตกใจ วิ่งหนีตายเอาตัวรอดโดยหลายคนได้ปีนหนีออกมาทางระเบียงด้านหน้า เพื่อรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และบางคนได้วิ่งออกมาทางด้านล่างได้ทันพ.ต.อ.สวัสิด์ ศรีแสนยงค์ ผกก.สภ.สะเดา พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า รอง ผกก.ป.สภ.สะเดา  นายธีระยุทธ นาวีเดล ปลัดอาวุโส อ.สะเดา ได้มาอำนวยการในการดับเพลิง โดยมีรถกระเช้า รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสำนักขาม เทศบาลเมืองสะเดา และจากเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์  มาช่วยในการดับไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ตร.สภ.สะเดา ทหารชุด ฉก.ร.5 และทหารร้อย ร.5021 รวมถึงจิตอาสาฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ติดอยู่ภายในโรงแรม ทั้งปีนระเบียงขึ้นไปช่วย และส่วนหนึ่งช่วยเหลือด้วยรถกระเช้าซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 คน ส่วนใหญ่จะมีอาการสำลักควันไฟ โดยมีอาการหนักถึงขั้นหมดสติจำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ต้องรีบให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ และส่งต่อโรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ท่ามกลางนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวบ้านในพื้นที่ที่ต่างมามุงดูนับร้อยคนเบื้องต้นมีผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า สาเหตุของไฟไหม้ในครั้งนี้เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมเกิดระเบิดขึ้น จนมีเปลวไฟลุกลามติดเข้าไปด้านในโรงแรมอย่างรวดเร็ว และมีควันไฟพวยพุ่งหนาแน่นสำหรับโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมขนาดกลาง มีห้องพัก 200 ห้อง โดยมีลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เข้าพักจำนวน 16 ห้องเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่สำหรับในวันนี้ 12 -13 เมษายน มียอดจองห้องเต็มทุกห้อง เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์  แต่กลับมาเกิดเหตุไฟไหม้เสียก่อน ซึ่งค่าเสียหายและสาเหตุการเกิดไฟไหม้ จะมีการตรวจสอบอีกครั้งมีรายงานล่าสุดจากเจ้าหน้าที่  มีนักท่องเที่ยวเพศชาย จำนวน 2 คน และเพศหญิง จำนวน 1 คน ที่ประสบเหตุ ซึ่งยังคงรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU โดย เพศชาย 2 คน สามารถตอบสนองตามคำสั่งของแพทย์ได้ แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ ส่วนเพศหญิงไม่สามารถตอบสนองใดๆได้  ซึ่งได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวสงขลา อยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่แล้ว  ความคืบหน้าจะนำเสนอให้ทราบอีกต่อไป