X

ครูวัยเกษียณ ฉีกแนวชีวิต โค่นยางพาราช่วงกิโลละ 80 ปลูกหม่อนพืชเศรษฐกิจมาแรง

สงขลา-สะเดา ครูวางแผนชีวิตช่วงวัยหลังเกษียณ โค่นต้นยางพารา 3 ไร่ เพื่อปลูกหม่อน หรือมัลเบอร์รี่ พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ พบอนาคตการตลาดยังสดใสทั้งจำหน่ายผลหม่อนสด และแปรรูปเป็นไวน์  เตรียมขยายด้านการตลาด หลังผ่านระเบียบข้อบังคับของกฎหมาย

หลังจากเกษตรกรในภาคใต้ โดยเฉพาะชาวสวนยางพารา ประสบกับวิกฤติราคายางพาราตกต่ำ ทำให้หลายๆคนต้องหาพืชตัวอื่นมาปลูกเสริม หรือทดแทน  เพื่อสร้างรายได้ บางรายก็ปลูกมะละกอ หรือกล้วย บางรายก็โค่นต้นยางพาราเพื่อปลูกพืชอื่นกันเลยทีเดียว  ซึ่งการโค่นต้นยางพาราเพื่อปลูกพืชอื่นๆนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย และมักจะถูกจับตามองของคนรอบข้างเสมอๆครูคนิต  พุทธกูล อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 / 6 ม.6 บ.เหนือคลอง ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา เจ้าของสวนหม่อนร่มบุญ บอกว่า ก่อนที่จะเกษียณจากข้าราชการครู ได้วางแผนให้กับชีวิตตัวเองว่าจะหาอะไรทำ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ นอกเหนือจากการทำสวนยางพาราซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 ไร่  ซึ่งในขณะนั้นก็มีคนรู้จักแนะนำให้ปลูกหม่อน หรือมัลเบอร์รี่เพื่อจำหน่ายผลสด ซึ่งเห็นว่าเป็นพืชตัวใหม่ที่คนรู้จักกันน้อย ก็เลยตัดสินใจปลูกตอนแรกก็โค่นยางพาราเพื่อปลูกหม่อนในเนื้อที่ 1 ไร่ ซึ่งตอนนั้นราคายางพารายังอยู่ที่กิโลละ 80 บาท ซึ่งนับว่าท้าทายมากทำให้เป็นที่จับตามองของเพื่อนบ้าน ซึ่งเนื้อที่ 1 ไร่ปลูกหม่อนได้ประมาณ 196 ต้น เป็นพันธุ์เชียงใหม่ที่ให้ลูกดก รสหวาน เริ่มปลูกตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันนี้ได้ขยายเนื้อที่เป็น 3 ไร่ มีหม่อนประมาณ 588 ต้น โดยหม่อนเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่อายุประมาณ 1 ปี ซึ่งเราต้องดูแลตัดแต่งกิ่ง และใช้เชือกผูกกับกิ่งหม่อนและดึงให้โน้มลง เพื่อบังคับให้หม่อนออกลูก ซึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้วันละประมาณ 10 กิโลกรัมระยะแรกๆก็นำไปขายให้กับลูกค้าในพื้นที่ ราคากิโลกรัมละ 300 บาท ส่วนในปัจจุบันราคาลดลงนิดหน่อย เนื่องจากมีคนรู้จัก และปลูกเพิ่มมากขึ้น จะนำไปขายที่ตลาดเกษตรเพื่อสุขภาพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ราคากิโลกรัมละ 200 บาท และขายปลีกแบบใส่กล่อง กล่องใหญ่ราคากล่องละ 60 บาท กล่องเล็กราคากล่องละ 30 บาท หรือหากมีใครสนใจมาซื้อถึงที่สวนก็ขายกิโลกรัมละ 200 บาทเช่นกัน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำที่ใส่ใจรักษาดูแลสุขภาพซึ่งนอกจากจะขายผลหม่อนสด สวนหม่อนร่มบุญยังแปรรูปหม่อนเป็นน้ำหม่อน และเป็นไวน์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก กรมหม่อนไหม ผ่านศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นราธิวาส ซึ่งไวน์หม่อนที่ผลิต ใช้ชื่อว่า ไวน์เนอคล็อง 18 ( Nerklong 18 ) ที่มีรสชาติไม่แพ้ไวน์แพงๆจากต่างประเทศ  แต่ทั้งนี้การแปรรูปเป็นไวน์ยังอยู่ในขั้นตอนการผลิตเพื่อดื่มกันเองในครอบครัว และเพื่อนฝูง รวมทั้งผู้ที่มาเยี่ยมชมสวนเท่านั้น เนื่องจากต้องรอให้ผ่านกฎข้อบังคับ หรือขั้นตอนของกรมสรรพสามิตเสียก่อน ซึ่งคาดว่าเสร็จเรียบร้อยในเร็วๆนี้ ถึงตอนนั้นครูคนิตบอกว่าจะดำเนินการด้านตลาดให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางต่อไปสำหรับการปลูกหม่อนซึ่งเป็นเศรษฐกิจตัวใหม่ ครูคนิตบอกว่าสวนหม่อนร่มบุญเป็นเจ้าแรก และคงเป็นแปลงใหญ่ที่สุดใน อ.สะเดา การดูแลไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะที่สวนได้ใช้วิธีการดูแลรักษาแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี และโชคดีอย่างหนึ่งคือต้นหม่อนไม่ค่อยมีศัตรู มีเพียงเพลี้ยแป้ง และหนอนเจาะลำต้น ซึ่งใช้น้ำส้มควันไม้ผสมกับน้ำบริสุทธิ์ฉีดพ่นประมาณเดือนละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว ทางด้านการตลาดเชื่อว่ายังสดใสอีกนาน เพราะการปลูกยังมีเนื้อที่โดยรวมไม่มากนัก โดยเฉพาะที่สวนจะมีลูกค้าประจำ  เนื่องจากเราจะเก็บผลหม่อนที่ได้มาตรฐาน สด สะอาด เท่านั้น  หากไม่ได้มาตรฐาน จะไม่เก็บขายให้กับลูกค้าโดยเด็ดขาด ครูคนิตบอก

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด