ปทุมธานี รถประชาสัมพันธ์งานศพโวย อิทธิพลมีจริงถูก จยย.ขับตามประกบถ่ายคลิปทุกวัน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2564 จากกรณีที่ นายสุเทพ นพขำ อายุ 54 ปี หัวหน้า เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลบ้านกลาง ได้แจ้งความกับ พ.ต.ท.สุระพงษ์ ตรีสมพงษ์ สว.สอบสวน สภ.สวนพริกไทย หลังจากที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Thanasak panmook ได้พสต์ข้อความว่า “ปทุม” บ้านฉัน…ลองของ… “ผู้มีอิทธิพลบ้านกลาง”… ทำไม?? อดีตผู้สมัคร ส.อบจ. นายดำรงค์ ยิ้มแย้ม ถึงตาย# มีทั้งนักเลงทั้งอันธพาลบ่อนไก่ยาเสพติด “มีแต่ 5 หมู่…สังคมเปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนนึกจะทำอะไรตามอำเภอใจ” พร้อมคลิปรถกระจายเสียงเชิญชวนประชาชนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายดำรง ยิ้มแย้ม (อดีต ส.ท.ตำบลบ้านกลาง) ในวันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 17.00 น. พร้อมมีข้อความระบุว่า เสียชีวิตด้วยการถูกรุมทำร้ายจากผู้มีอิทธิพลในตำบลบ้านกลาง
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ผู้โดยสารโวยสุดร้อน เหตุแอร์ในสนามบินตรังเสียมา 2-3 เดือนแล้ว
- กาฬสินธุ์ตะลึงประกวดฟ้อนรำผู้ไทนางรำยุคเก่าแห่เข้าประกวดเพียบอายุมากสุด 84 ปี
- ผู้ประกอบการธารน้ำไหลบ้านนา อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เรียกหาความรับผิดชอบเปิดประตูน้ำฝายทำร้านค้าพังพินาศ
- สองสามีภรรยาขี่พ่วงขายก๋วยเตี๋ยวกำลังจะกลับบ้าน เฉี่ยวชนข้างรถสองแถว ถูกน้ำก๋วยเตี๋ยวลวกเจ็บสาหัส
ด้าน นายรุ่ง ทองย้อย อายุ 54 ปี คนขับรถกระจายเสียง กล่าวว่า ตนเองขับรถกระจายเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ อดีต ส.ท.ดำ แต่กลับมีรถจักรยานยนต์ขับตามพร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพรถตนเองตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่สองที่ตนเองวิ่งประชาสัมพันธ์ และเป็นแบบนี้มาตลอดตั่งแต่วันศุกร์ที่ 19 ที่ผ่านมา ตนเองรู้สึกเป็นกังวลและรู้สึกเหมือนจะถูกข่มขู่หลายวันติดโดยเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียน และคนขับติดตามทุกวัน แต่ลักษณะวิธีการเหมือนกันคือขี่รถติดตามแล้วใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพซึ่งจากเหตุการณ์ที่ ส.ท.ดำตายผิดธรรมชาติคือถูกลอบทำร้ายบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมาตนก็ต้องกลัวไว้ก่อน
จากคลิปที่เป็นข่าวจะเห็นว่ามีรถจักรายนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้วย ขับตามรถกระจายเสียงเมื่อเราเปิดไฟชิดซ้ายให้รู้ให้แซงได้ แต่เขาก็ไม่ไปขับติดตามอย่างนี้ตลอด วันต่อมาจึงให้เพื่อนผมขับรถตามท้ายรถกระจายเสียงมา เพื่อที่จะดูพฤติกรรมคนที่ขับรถจักรยานยนต์มาถ่ายคลิปรถผม เนื่องจากผมกลัวเพราะผมขับคนเดียว เพราะผมก็มีลูกเมียเหมือนกัน ผมจึงพูดข่มขู่ไปว่ากูมีปืนนะ มึงจะข่มขู่อะไรกู กูก็ไม่กลัว ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด เป็นการพูดเพื่อเป็นการปรามไม่ให้เขาอาจจะมาทำร้ายตนเองได้ซึ่งผมก็ต้องไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงประจำวันไว้เพื่อป้องกันตัว เพราะถ้าหากตนเองถูกทำร้ายตำรวจจะได้รู้ว่าเป็นกลุ่มคนพวกนี้เพราะตนไม่เคยมีเรื่องผิดใจกับใคร.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: