X

สุราชุมชนตรัง เฮ ยอดขายพุ่ง! หลัง “พิธา” ปลุกกระแสสุราก้าวหน้า เสนอ ปลดล็อกแล้วต้องส่งเสริมชาวบ้านขายด้วย

สุราชุมชนตรัง เฮ ยอดขายพุ่ง! หลัง “พิธา” ปลุกกระแสสุราก้าวหน้า เสนอ ปลดล็อกแล้วต้องส่งเสริมชาวบ้านขายด้วย ทั้งเหล้าขาว-เหล้าสี ชูเอกลักษณ์ชุมชนไทย ไม่จริงทำขาเหล้าเพิ่ม เพราะเหล้านายทุนหาซื้อง่ายกว่า

ตรัง-จากกระแสสุราก้าวหน้า ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดเรื่องสุรากลั่นชุมชนและสุราพื้นบ้าน จนเป็นกระแสในขณะนี้ ส่งผลให้สุรากลั่นชุมชนและสุราพื้นบ้านในจังตรังได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่ง 3-4 วันที่ผ่าน หลายชุมชนหลายผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนและสุราพื้นบ้านมียอดจำหน่ายพุ่งขึ้นเป็นประวัติการ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โรงกลั่นสุราชุมชน “ยอดข้าวสุราทิพย์” ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ผลิตสุรากลั่นชุมชนขึ้นทะเบียนโดยใช้วัตถุดิบจากข้าวหอมมะลิ น้ำตาลโตนด และน้ำตาลอ้อย โดยปัจจุบันได้ผลิตสุรากลั่นชุมชนออกมาจำนวน 4 แบบ โดยส่วนใหญ่จะวางขายในร้านจำหน่ายสุราในจังหวัดตรัง จำหน่ายผ่านแฟนเพจเฟสบุ๊ก รวมทั้งมีการดีลกับห้างโมเดิร์นเทรดในจังหวัดเพื่อจัดจำหน่ายสินค้า

นายประสิทธิ์ สำนักเหยา เจ้าของผลิตภัณฑ์ยอดข้าวสุราทิพย์ กล่าวว่า เรื่องสุราก้าวหน้าตามนโยบายที่นายพิธาพูดนั้นตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะส่งเสริมสุราชุมชน ให้สุราชุมชนมีที่ยืนในตลาดมากขึ้น และเห็นด้วยที่จะมีการปลดล็อกตัวบทกฎหมายที่มีอยู่เดิม และข้อจำกัดของกฎหมาย เช่น เรื่องกำลังการผลิต ขนาดแรงม้าของเครื่องจักรในโรงกลั่น การผลิตคราฟเบียร์หรือสุราสีก็ควรปรับลิมิตในการผลิตให้ต่ำลง เพื่อให้โรงผลิตระดับชุมชนสามารถขออนุญาตผลิตได้ ซึ่งสำหรับสุราสีกฎหมายได้เขียนไว้ว่ากำลังผลิตต้อง 30,000 ลิตร หรือ 90,000 ลิตร ต่อวัน หากกฎหมายใหม่จะเกิดขึ้นก็ต้องปรับระดับปริมาณการผลิตให้ต่ำลง ซึ่งกฎหมายเหล่านี้เป็นข้อจำกัดไม่ให้สุราชุมชนเติบโตไปได้

นายประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตนมองว่าหากรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าปลดล็อกแล้ว ยังอยากให้รัฐเล็งเห็นถึงการส่งเสริมช่องทางการขายด้วย อยากให้มองสุราชุมชนหรือคราฟเบียร์ว่าเป็นงานศิลปะ เป็นเรื่องภูมิปัญญาของชุมชน ของชาวบ้าน เพราะหากแค่ปลดล็อกกฎหมายแต่ไม่มีการส่งเสริมการขาย ผู้ผลิตสุราชุมชนก็ไม่สามารถอยู่ได้เช่นกัน ตนอยากให้รัฐบาลไปคุยกับผู้ค้ารายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ หรือ โมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ ขอพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าสุราชุมชน คราฟเบียร์ หรือแม้แต่สินค้าชุมชน สินค้าพื้นบ้าน สินค้าโอท็อปอื่นๆด้วย

“ตอนนี้ปัญหาหลักของผู้ผลิตสุราชุมชนก็คือการขาย ผลิตแล้วขายไม่ได้ เพราะถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมายยิบย่อย เช่น ไม่สามารถทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เพราะมองว่าทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงง่าย แต่หากลองให้ลึกลงไปช่องทางออกไลน์มีเวลาในการสั่งซื้อและจัดส่ง หากแต่ความเป็นจริงการไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อหรือร้านของชำนั้นสะดวกกว่าออนไลน์ด้วยซ้ำ ขี่รถไปซื้อได้เลย 5 นาทีถึง แต่การปลดล็อกสุรา หรือ สุราก้าวหน้า ทำให้เกิดมิติแข่งการแข่งขันพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ส่งเสริมให้คนในชุมชนได้มีงานทำ ส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรที่ปลูกข้าว อ้อย ตาลโตนด แล้วยังส่งผลไปจนถึงการซื้อแสตมป์สรรพสารมิตรเพื่อจ่ายภาษี ผมมองว่าการปลดล็อกไม่ได้มีผลทำให้นักดื่มเพิ่มขึ้น มันคนละประเด็นกัน เพราะคนเรามีความชื่นชอบต่างกัน”นายประสิทธิ์กล่าว


นายประสิทธิ์กล่าวว่า กระแสที่นายพิธาปลุกขึ้นมานี้ทำให้คนตื่นตัว ที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยเจอปรากฏการณ์เช่นนี้ บางคนไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าในจังหวัดตัวเองมีผลิตภัณฑ์นี้ด้วย เพราะเราขาดการส่งเสริม แต่เมื่อนายพิธาออกมาพูดทำให้คนตื่นตัว และเห็นถึงคุณภาพของสุรากลั่นชุมชน ไม่ต่างจากสุราแบรนด์ดัง ซึ่งกลไกการผลิตสุราเหมือนกันทั่วโลก แตกต่างกันแค่วัตถุดิบ และสุราชุมชนของไทยแต่ละจังหวัดล้วนมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ในบางประเทศนำข้าวไทยไปผลิตสุราแล้วส่งกลับมาขายในเมืองไทย แล้วทำไมเราไม่ส่งเสริมคนไทยด้วยกันเอง สร้างแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ แล้วยังช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งทุกอย่างมาเกาะเกี่ยวกันเป็นห่วงโซ่ ตอนนี้กระแสสุราก้าวหน้าจุดติดแล้ว แต่เหล็กมันต้องตีตอนร้อน แล้วสิ่งที่ทำให้โรงกลั่นสุราชุมชน หรือ สุราชุมชนอยู่ได้ คือการส่งเสริมการขาย ต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยได้ชิมรสชาติสุราชุมชน ได้ชิมสุราแปลกใหม่ไปจากสุราในประเทศเขา การปลดล็อกควรเริ่มตั้งแต่ปลดล็อคแรงม้า ปริมาณการผลิต เพราะโรงกลั่นสุราชุมชนเป็นของชาวบ้าน เขาไม่ได้มีเงินมากมาย หรือ มีรถกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ไม่มีเงินจ้างเอเยนซี่ หรือ โฆษณาในสื่อใหญ่ อย่างกับผลิตภัณฑ์ของยักษ์ใหญ่ ซึ่งเมื่อปลดล็อกแล้วจะเกิดการแข่งขันด้านคุณภาพ แต่การปลดล็อกไม่ได้แค่ปลดล็อกอีกอย่างแล้วไปตั้งกำแพงอีกอย่าง หากเป็นเช่นนั้นมันไม่มีความหมาย ผลิตได้ก็ต้องขายได้ด้วย

ส่วนที่สังคมกังวลว่าปลดล็อคแล้วจะเป็นการส่งเสริมให้คนดื่มสุรามากขึ้นนั้น นายประสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องการกำกับดูแลนั้นมีกฎหมายกำกับอยู่แล้ว ทั้งห้ามจำหน่ายสุรา บุหรี่ ให้แก่เด็กและเยาวชน ที่ผ่านมาการตั้งเงื่อนไขต่างๆไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคลดน้อยลง เพราะเมืองไทยก็มียักษ์ใหญ่ที่ผลิตสุรา เบียร์ อยู่แล้ว และหาซื้อได้ง่ายกว่าสุราชุมชน เพราะมีขายทุกหนแห่ง ร้านของชำก็มี ขณะที่สุราชุมชนหาซื้อยากกว่า

“หลังจากมีกระแสสุราก้าวหน้าเมื่อ 3-4วันก่อน ทำให้ตอนนี้มียอดขายยอดข้าวสุราทิพย์ เพิ่มหลายเท่าตัวเฉลี่ยวันละกว่า 2 แสนบาท ซึ่งผู้ซื้อนอกจากจะซื้อเพื่อบริโภค และยังซื้อเพื่อนำไปสะสม และผู้ผลิตเองก็มองถึงการพัฒนารสชาติ สรรหาวัตถุดิบที่นำมาผลิต และเรากำลังทดลองนำข้าวเบายอดม่วงซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองตรังซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขอรับรองการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดตรัง หรือ สินค้า GI และข้าวพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆมาทำเพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีรายได้เลี้ยงดูพนักงาน”นายประสิทธิ์ระบุ

คำเตือน การดื่มสุรามีผลต่อสุขภาพ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน