ตรัง – นร.ร.ร.ห้วยยอด เจ๋ง แปรรูปเมล็ดปาล์มร่วงจากแปลงเกษตรพอเพียงโรงเรียน เป็นครีมขัดรองเท้า สร้างแบรนด์ของตัวเอง “แวววับ” ครีมขัดรองเท้า จากปาล์มน้ำมัน โรงเรียนห้วยยอด จนคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดโครงงานอาชีพระดับประเทศ และชนะเลิศการประกวดกิจกรรมบริษัท สร้างการดี โครงการโรงเรียนสุจริตระดับภาคใต้ อนาคตสามารถต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน
วันที่ 9 ตุลาคม 2563 ที่โรงเรียนห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นักเรียนชั้นม.5 สายวิทย์ -คณิต ประกอบด้วย นางสาวบุปผา ดำนิล, นางสาวชนิกานต์ อริกุล, นางสาวชนิสรา แดงเอียด นางสาวชนาภัทร ร่างมณี และนางสาวศศิชา ประดิษฐ์ ซึ่งมีคุณครูที่ปรึกษา จำนวน 2 ท่าน ประกอบด้วย ครูนฤมล เจษฎารมย์ และครูสุกัญญา จงใจ ร่วมกันสาธิตการแปรรูปผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้จากแปลงเกษตรพอเพียงของโรงเรียน ที่ทุกคนร่วมกันทดลองค้นคว้าและทำจนประสบความสำเร็จ คือ ครีมขัดรองเท้า จากปาล์มน้ำมัน โดยแรกเริ่มทุกคนร่วมกันคิดเพื่อผลิตเป็นโครงงานอาชีพ เพื่อส่งเข้าประกวด โดยใช้ชื่อว่า โครงงานอาชีพ “ร่วงจากต้น กล่นเกลื่อนพสุธา สร้างค่าอาชีพ” โรงเรียนห้วยยอด จนประสบความสำเร็จ ชนะเลิศได้เหรียญทองระดับประเทศ และต่อยอดเข้าร่วมประกวดในกิจกรรม บริษัท สร้างการดี โครงการโรงเรียนสุจริตระดับภูมิภาค ภาคใต้ จนสามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศระดับภาคใต้มาได้อีกเป็นรางวัลที่ 2 สร้างความตื่นเต้นดีใจและภาคภูมิใจให้แก่น้องๆนักเรียนทั้งกลุ่มเป็นอย่างมาก ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนห้วยยอดได้ถึง 2 ครั้งซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถือเป็นความสำเร็จในการนำผลผลิตการเกษตร พืชเศรษฐกิจในท้องถิ่นมาแปรรูปทำเป็นนวัตกรรมใหม่ สามารถช่วยเหลือเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร “ปาล์มน้ำมัน” ให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในอนาคต ทั้งนี้ น้องๆเริ่มจากการค้นหาวัตถุดิบต่างๆที่มีในพื้นที่ ที่จะสามารถนำมาคิดค้นโครงงานได้ ปรากฏว่าในโรงเรียนห้วยยอด ทางโรงเรียนได้ทำแปลงเกษตร เพื่อสืบสานแนวทางในพระราชดำริเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้เอาไว้ โดยได้แบ่งพื้นที่สำหรับการปลูกปาล์มน้ำมันไว้ประมาณ 50 ต้น จึงเป็นที่มาของผลงานความสำเร็จ ครีมขัดรองเท้าแบรนด์ของตัวเอง ยี่ห้อ “ แวววับ” ครีมขัดรองเท้า จากปาล์มน้ำมัน โรงเรียนห้วยยอด
ทั้งนี้ น้องๆได้พาไปดูแปลงเกษตรปาล์มน้ำมันของโรงเรียน และเริ่มจากนักเรียนเลือกเก็บมาเฉพาะเมล็ดร่วงที่หล่นโคนต้นเท่านั้น หรือเก็บเอาเมล็ดสีดำที่แห้งเหี่ยวคาต้น ซึ่งเป็นเมล็ดที่ไร้ประโยชน์แล้วมาทำ ทั้งนี้ แบ่งครีมขัดรองเท้า ออกเป็น 2 สี คือ เนื้อครีมสีขาว กับเนื้อครีมสีดำ โดยเนื้อครีมสีขาว ได้จากการนำเมล็ดร่วงปาล์มน้ำมันมากะเทาะเอาเปลือกออกแล้วเอาแต่เมล็ดมาทุบให้แหลก จะมีลักษณะเหมือนมะพร้าว จากนั้นเอาไปต้มให้สุก แล้วเอาไปตากแดด จากนั้นนำมาปั่นหรือบดให้ละเอียด แล้วกรองเอาอย่างละเอียด แล้วเอาไปตั้งไฟเคี่ยวสกัดให้ออกมาเป็นน้ำมันสีเหลือง ก็จะได้น้ำมันปาล์มดิบสีเหลือง จากนั้น นำส่วนประกอบทั้งหมด ประกอบด้วย วาสลีน น้ำมันมะกอก เทียนไข น้ำมันปาล์มดิบ (สีเหลือง)ที่สกัดไว้แล้ว ตั้งไฟปานกลาง คนไปในทิศทางเดียวกันจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นยกลงวางพักไว้ 10 นาที หรือคนไล่ความร้อน เพื่อให้เนื้อครีมไม่ร้อนเกินไปก่อนตักใส่ภาชนะรออีก 20 นาที จากของเหลวจะเริ่มแข็งตัวกลายเป็นเนื้อครีม ก็จะได้เป็นครีมขัดรองเท้าจากน้ำมันปาล์ม เนื้อครีมสีขาว
ส่วนครีมขัดรองเท้า เนื้อครีมสีดำ โดยการนำเมล็ดปาล์มร่วงไปเผาไฟให้ดำเป็นถ่าน จากนั้นนำมาตำหรือบดให้ละเอียด หรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำไปกรองกับตะแกรง เพื่อร่อนเอาแต่ผงถ่าน เพราะขณะกวนเนื้อครีมจะไม่จับเป็นก้อน และไม่ติดก้นภาชนะ จากนั้นใส่เทียนไข วาสลีน น้ำมันมะกอก และผงถ่านบดละเอียด เทลงไปในหม้อ เปิดไฟปานกลาง คนไปในทิศทางเดียวกันจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นยกลงวางพักไว้ 10 นาที หรือคนไล่ความร้อน เพื่อให้เนื้อครีมไม่ร้อนเกินไปก่อนตักใส่ภาชนะรออีก 20 นาที จากของเหลวจะเริ่มแข็งตัวกลายเป็นเนื้อครีม จะได้เป็นครีมขัดรองเท้าสีดำจากน้ำมันปาล์ม ติดสลากพร้อมจำหน่ายเป็นแบรนด์ของตัวเอง (ซึ่งครีมขัดรองเท้าทั้ง 2 สี ดังกล่าว ส่วนประกอบและวิธีการทำจะเหมือนกัน ยกเว้นครีมสีขาว ทำจากน้ำมันปาล์ม ส่วนครีมสีดำ ทำจากผงถ่านปาล์มน้ำมัน) ทั้งนี้ ครีมขัดรองเท้าจากปาล์มน้ำมันที่ได้ จะมีกลิ่นหอม ไม่มีสารเคมีเจือปน โดยสีดำ สามารถนำไปขัดกับรองเท้านักเรียน หรือรองเท้าหนังสีดำทั่วไป ส่วนครีมขัดรองเท้าสีขาว สามารถนำไปขัดได้ทั้งรองเท้าหนังที่เป็นสี กระเป๋า เบาะรถ และเครื่องหนังต่างๆสามารถขัดได้หมด
นายสมปอง ห่วงจริง ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยยอด กล่าวว่า ที่มาของผลิตภัณฑ์น้ำยาขัดรองเท้าจากปาล์มน้ำมัน เริ่มต้นจากหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีฐานพอเพียงปาล์มน้ำมัน แปลงเกษตรของโรงเรียน ถ้าจะขายเฉพาะทลายปาล์มน้ำมันก็ได้ แต่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ว่านักเรียนจะต้องเพิ่มทักษะกระบวนการคิดเข้าไป ก็เลยนำเอาลูกปาล์มที่ร่วงหล่นบนพื้นไร้ประโยชน์แล้ว โดยใช้กระบวนการทักษะการคิด มีคุณครูสุกัญญาจงใจ มาประดิษฐ์คิดค้น น้ำยาขัดรองเท้า และนำเข้าสู่โครงงานอาชีพ เพื่อเสริมสร้างรายได้ แต่พอทำไปแล้วไม่ใช่ได้เฉพาะแต่โครงงานอาชีพ แต่ได้สอดคล้องกับแนวนโยบายทำโครงการโรงเรียนสุจริตของ สพฐ.ที่ให้เข้าประกวดในโครงการ บริษัท สร้างการดี ต้องการให้นักเรียนมีทักษะการคิด เสียสละ อยู่อย่างพอเพียง และจิตอาสา เด็กที่มาร่วมกลุ่มนี้จะต้องลักษณะทั้ง 4 ประการดังกล่าว คือ มีทักษะการคิด มีจิตอาสา มีความพอเพียง และมีความเสียสละ จากกิจกรรมนี้ตอบโจทย์คุณธรรมได้ สอดคล้องกับโรงเรียนคุณธรรมด้วย โรงเรียนสุจริตด้วย ทั้งนี้ เป็นที่มาจากโครงงานอาชีพเพียงโครงงานเดียว แต่ตอบโจทย์โรงเรียนส่งเสริมคุณธรรม บริษัท สร้างการดี โรงเรียนสุจริตได้ และในอนาคตจะนำไปสู่การช่วยเหลือนักเรียนที่อยากจะต่อยอด ก็สามารถนำไปผลิตขายสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวได้ ในอนาคตจะต่อยอดส่งเสริมให้นักเรียนทำเป็นสเปรย์ปรับอากาศ และสบู่ต่อไป
คุณครูสุกัญญา จงใจ ครูที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า เด็กช่วยกันคิดว่าจะทำกีวีขัดรองเท้า ได้เก็บผลปาล์มมา แรกเก็บเมล็ดปาล์มสดมา แต่พบปัญหาว่า ต้องนำมาผ่าซีก แล้วก็ตากแดดให้แห้ง จึงจะสามารถนำไปเข้ากระบวนการสกัดน้ำมันมาได้ ล่าช้ามาก จึงกลับไปดูที่แปลงเกษตรใหม่ ก็พบเมล็ดร่วงจึงนำมาทุบดูก็สังเกตพบว่า ข้างในเป็นเหมือนมะพร้าว จากนั้นนำไปปั่น แล้วเอามาเคี่ยวสกัดออกมาเป็นน้ำมันปาล์มดิบ (สีเหลือง) จึงเอาผสมกับส่วนผสมต่างๆ เช่น วาสลีน เทียนไข น้ำมันมะกอก เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณ ถ้าเราใช้แต่ปาล์มน้ำมันอย่างเดียว ต้องใช้เวลามาก ผลิตภัณฑ์ครีมขัดรองเท้าที่ทำจากปาล์มน้ำมันในตลาดยังไม่พบมีการวางจำหน่าย ตอนนี้นักเรียนจึงทำแบรนด์ของตนเอง ยี่ห้อ “ แวววับ” ครีมขัดรองเท้า จากปาล์มน้ำมัน โรงเรียนห้วยยอด โพสต์ขายในเฟสบุ๊คของนักเรียน ของครู มียอดสั่งซื้อทั้งจากนักเรียน จากคุณครู เพื่อนำไปใช้เอง และได้ผลดีมาก มีกลิ่นหอมไม่เหมือนกับครีมขัดรองเท้าที่วางขายในท้องตลาด กลิ่นจะแรง ของเราไม่มีสารเคมี ท้องตลาดมีสารเคมี ทั้งนี้ เชื่อว่าหากมีการนำเอาความสำเร็จดังกล่าวไปใช้จะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ดึงผลผลิตมาแปรรูทำเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าให้ปาล์มน้ำมันได้
ทางด้านนางสาวบุปผา ดำนิล ตัวแทนเพื่อนๆ บอกว่าแรกเริ่มจากรายวิชาโครงงานที่เรียนในห้องให้จับกลุ่มกันทำเป็นโครงงาน เพื่อจะส่งอาจารย์ ก็มาปรึกษากันว่าจะทำโครงงานอะไรดี ก็สังเกตจากรองเท้าของนักเรียนในห้องว่า มันไม่ค่อยมันวาว ก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้รองเท้าพวกนี้มันวาวขึ้นมา ก็เลยไปสังเกตุเหตุในแปลงเกษตรของโรงเรียนมีลูกปาล์มน้ำมัน ก็เลยเอาลูกปาล์มนำมาขัดรองเท้าดู ก็พบว่ามันมันวาว หลังจากนั้นจึงคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้เมล็ดปาล์มให้ได้เป็นครีมขัดรองเท้าได้ ก็เลยปรึกษากับครู จึงได้โครงงานอาชีพ “ร่วงจากต้น กล่นเกลื่อนพสุธา สร้างค่าอาชีพ” ทั้งนี้ ร่วมกันคิดประมาณเดือนกว่าๆ จากนั้นก็ลงมือทำทดลองมาเรื่อย จนประสบความสำเร็จ จนได้ 2 แบบ คือ กระปุกครีมสีขาวทำจากน้ำมันปาล์มดิบ และกระปุกครีมสีดำ ทำจากผงถ่านจากลูกปาล์มที่นำไปเผา ซึ่งการทำหากเป็นครีมสีขาว จะยุ่งยากใช้เวลานานกว่า เพราะต้องนำเมล็ดปาล์มไปสกัดเป็นน้ำมันปาล์มก่อน แต่ถ้าเป็นครีมสีดำ แค่เอาไปเมล็ดปาล์มไปเผาไฟแล้วมาปั่น แล้วเข้าสู่กระบวนการผลิตจะใช้เวลาทำน้อยกว่า โดยผลงานที่ออกมาทุกคนต่างภูมิใจมากเพราะตัวโครงงานอาชีพ เข้าประกวดชนะรางวัลระดับประเทศมา จากนั้นต่อยอดเข้าประกวดบริษัทสร้างการดีมาด้วย ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาคใต้มาอีก ก็ดีใจมากๆ ในกลุ่มจึงช่วยกันผลิตสร้างแบรนด์ของตัวเอง ยี่ห้อ “แวววับ” ครีมขัดรองเท้า จากปาล์มน้ำมัน โรงเรียนห้วยยอด ขายให้เพื่อน ๆพี่ๆน้องๆ คุณครูในโรงเรียน ก็จะยอดสั่งเข้ามาเรื่อยๆ กระปุกละ 35 บาท ในอนาคตจะขายจริงจังผ่านทางเฟสบุ๊คของโรงเรียน
