ผู้จำหน่ายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ปุ๋ยและเคมีการเกษตร ระบุพร้อมปฏิบัติตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายในการยืดเวลาหรือแบนทันทีสารเคมีเกษตร แต่ในฐานะเกษตรกรอยากให้ยืดเวลาการใช้ออกไปอีก เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีสารเคมีอื่นทดแทน ซึ่งเกษตรกรจำเป็นต้องใช้ และเพื่อการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากสารเคมีตัวใหม่ที่มาทดแทนราคาแพงกว่าถึง 3 เท่า ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 นายวีระ ตระกูลรัมย์ เจ้าของ บริษัท ตรัง – มาเลเซีย อะโกรเทค จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกปาล์มน้ำมันและยางพารา และผู้จำหน่ายปุ๋ยและเคมีเกษตร กล่าวถึงเรื่องการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เรื่องการพิจารณายืดเวลาการแบนพาราควอต และคลอร์ริฟอสออกไป จากวันที่ 1 มิถุนายน ออกไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ว่า ตนเองพร้อมปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ออกมา หากไม่ขยายเวลาก็สามารถเก็บส่งคืนได้หมดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะของตนเองไม่ได้สั่งซื้อเก็บไว้ในสต๊อก เนื่องจากเตรียมพร้อมรับมือมาตรการอยู่แล้ว แต่หากถามความรู้สึกส่วนตัวในฐานะเกษตรกร ตนเองอยากให้ยืดเวลาออกไปอีก เพื่อให้ได้สารทดแทนตัวใหม่ที่ชัดเจนออกมา และราคาใกล้เคียงกับตัวเดิม เนื่องจากขณะนี้มีสารเคมีบางตัวออกมาทดแทน แต่เกษตรกรทดลองใช้แล้วต่างไม่ยอมรับ เนื่องจากราคาสูงกว่าตัวเดิมมากกว่าถึง 3 เท่าตัว ซึ่งทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ขณะที่ความต้องการใช้สารเคมีประเภทดังกล่าว ยังจำเป็นสำหรับเกษตรกรที่จะต้องใช้ในปาล์ม และยางขนาดเล็ก ซึ่งหากไม่มีตัวใหม่ออกในคุณภาพและราคาที่ใกล้เคียงกัน จะทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อน ขณะที่ราคาผลผลิตก็ตกต่ำอยู่ในขณะนี้
ทางด้านเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันและยางพารา ที่เดินทางมาซื้อปุ๋ย ก็กล่าวว่า ตนเองจำเป็นต้องใช้บ้างขณะที่ปาล์มน้ำมันขนาดเล็ก แต่แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่พอต้นโตขึ้นก็จะไม่ใช้เลย เพราะส่งผลต่อการเติบโตของดอกและผล แต่จะใช้วิธีจ้างคนตัดแทน และส่วนตัวก็ไม่สนับสนุนให้มีการใช้ เพราะเป็นสารเคมีไม่ปลอดภัยกับตัวเกษตรกร
