X

ฤาษีเจ้าสำนักลัทธิเพี้ยนกินอึหายตัวล่องหนหลังได้ประกัน รอง.ผวจ.นำหมายสั่งปิด!

ชัยภูมิ – เพื่อเข้าตรวจค้นโดยละเอียดทั้งหมดอีกรอบ หวั่นมีการทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้องในสำนักลัทธิเพี้ยนที่มีหลักฐานในพื้นที่อีกจำนวนมาก สาวกแห่แตกรังเข้าขนข้าวของออกจากสำนัก หลังรู้ข่าวพระบิดาฤาษีเจ้าสำนักลัทธิเพี้ยนกินอึฉี่ขี้ไคลเสมหะรักษาโรค ได้ประกันตัวออกจากเรือนจำแล้ว แต่กลับหายตัวล่องหน ล่าสุดผลตรวจค้นพบหลักฐานอีกเพียบจ่อดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกหลายข้อหา ก่อนที่ผู้ว่าฯ สั่งเร่งดำเนินการรื้อถอนปิดสำนักดังกล่าวเด็ดขาดให้เสร็จสิ้นภาย 7-10 วัน!

เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา วันที่ 10 พ.ค.65 ทางนายไกรสร  กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เร่งมอบหมายให้นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมนายแพทย์วชิระ  บถพิบูลย์ สสจ.ชัยภูมิ และ พ.ต.อ.วัฒนชัย  จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร ร่วมกันสนธิกำลังเจ้าหน้าที่นำหมายศาลจังหวัดภูเขียว ให้เข้าตรวจค้นตรวจสอบภายในสำนักปฏิบัติธรรมลัทธิประหลาด ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ โดยละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเพื่ออายัดเก็บหลักฐานไว้เป็นของกลางดำเนินคดีเพิ่มเติม

หลังเจ้าตัวฤาษีเจ้าสำนักลัทธิประหลาด อ้างตัวเป็นพระบิดาใหญ่กว่าทุกศาสนา ซึ่งมีนายทวี  หนันลา หรือ ”โจเซฟ” อายุ 74 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 1 ตำบลโนนสะอาด อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม หรือ อาศรมดังกล่าว ก่อนที่จะมีการร้องเรียนให้ทางหมอปลา และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ให้เข้าตรวจสอบพบมีการเปิดรับการรักษาโรคให้ชาวบ้านสุดเพี้ยนหนัก ให้กินอุจาระ ปัสสาวะ เสมหะ ขี้ไคล ของเจ้าสำนักดังกล่าวช่วยรักษาโรคทุกชนิด และพบมีการเก็บศพให้เน่าทิ้งไว้ในโลงศพเก็บไว้ในสำนักดังกล่าวอีกรวม 11 ศพ ที่อยู่ระหว่างเร่งชันสูตรยืนยันตัวบุคคล ก่อนที่จะมีการจับกุมตัวฤาษีรายนี้ส่งดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่สาธารณะ และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคโควิด-19 ใน 2 ข้อหาเบื้องต้น มาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยูระหว่างรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหลายคดีหนัก

ก่อนที่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ 9 พ.ค.65 ศาลได้อนุมัติให้ฤาษีรายนี้ได้ประกันตัวออกไปได้ จนมาถึงขณะนี้หลังได้รับการประกันตัวทั้งทางญาติเจ้าลัทธิเพี้ยนที่อยู่จังหวัดขอนแก่น ก็ยังไม่ทราบได้ว่าไปอาศัยอยู่ที่ใด ทำให้กลุ่มลูกศิษย์สาวกลัทธิเพี้ยนดังกล่าวที่ยังมีข้าวของอยู่ในพื้นที่สำนักดังกล่าวต่างพากันแห่รีบเดินทางไปเก็บข้าวของมีค่าตัวเองกันออกจากสำนักดังกล่าวเป็นจำนวนมากในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าเมื่อฤาษีพระบิดา ไม่อยู่และไม่กลับมาที่สำนักดังกล่าวแล้ว ลูกศิษย์ก็ไม่รู้จะมาอยู่ต่อไปได้อย่างไร กลับบ้านดีกว่าที่ส่วนใหญ่พบว่าเป็นชาวบ้านนอกพื้นที่มาจาก จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี

ซึ่งวันนี้ทางจังหวัดชัยภูมิ ต้องเร่งเก็บหลักฐานในสำนักดังกล่าวทั้งหมด และเกรงว่าจะมีลูกศิษย์จำนวนมากมาเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ต้องยึดไว้ตรวจสอบดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกได้ จึงได้มีการนำขออนุมัติหมายศาลเข้านำกำลังตรวจค้น ตรวจสอบสำนักลัทธิเพี้ยนทั้งหมดครั้งนี้โดยละเอียดอีกครั้ง

และขณะที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นเข้าไปบริเวณตรงจุดที่เป็นที่พัก ซึ่งอยู่ในกระท่อมยกสูงหลังใหญ่ ที่อยู่บริเวณด้านหน้าสำนักฯ เพื่อตรวจสอบบริเวณโอ่งน้ำ และ กระติกน้ำที่อ้างว่าเป็นน้ำมนต์ ที่ใช้ในการถูตัวพระบิดาเจ้าสำนัก หลังจากที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบน้ำที่มีกลิ่นเน่าเหม็น จึงได้นำไปตรวจสอบ

ก่อนที่จะไปตรวจบริเวณจุดที่ทำขนม ซึ่งคาดว่าน่าจะทำขนมเป็นแหล่งหารายได้ของสำนักเอาไว้ขายให้กับชาวบ้านที่เข้ามารักษาอาการป่วย ที่มีประชาชนจำนวนมากทั้งจากเขตอำเภอคอนสารและอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเก็บและนำไปตรวจสอบว่ามีขบวนการผลิต และ มี อย.รับรองการผลิตหรือจัดจำหน่ายด้วยหรือไม่

ส่วนบริเวณปากทางเข้าห้องที่เก็บสินค้ายังมีกลิ่นเหม็นคล้ายเยี่ยวของคนคลุ้งไปทั่ว และปากทางเข้าห้องเก็บของยังพบที่กักเก็บซึ่งคาดว่าเป็นที่หมักน้ำปลาร้า อยู่ในถังอีกจำนวนมากหลายใบ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บไปตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย

ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในเบื้องต้นและเก็บข้อมูลไปตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะได้ผลักดันสาวก และคณะลูกศิษย์ที่มาอาศัยบริเวณดังกล่าวให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เพื่อตรวจยึดพื้นที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นป่าสาธารณะประโยชน์คืนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป รวมทั้งยังมีการพบว่ามีการแปรรูปไม้หวงห้ามในพื้นที่สำนักดังกล่าว ซึ่งจะมีการเร่งตรวจสอบที่มาที่ไปทั้งหมดด้วยเพิ่มเติมต่อไป

ซึ่งล่าสุดด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมนำหมายศาลเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ กล่าวว่า ทางด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เร่งเข้าทำการรื้อถอนสำนักลัทธิประหลาดดังกล่าวให้เสร็จสิ้นจากนี้ไปโดยเร็วภายใน 7-10 วัน เพื่อไม่ให้เกิดลัทธิดังกล่าวในพื้นที่กลับเข้ามาอีก พร้อมกันนี้ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกอำเภอเร่งตรวจสอบลัทธิในลักษณะดังกล่าวภายในจังหวัดมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากมีขอให้เร่งทำการตรวจสอบและดำเนินคดีกับส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมทำการรื้อถอนเพื่อไม่ให้เกิดเป็นลัทธิงมงายแบบนี้ได้อีกในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทั้งหมดโดยเร็วต่อไป

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]