จังหวัดแพร่ “ใช้มาตรการเข้ม ยั้งโควิด-19” สั่งปรับไม่เกิน 20,000 บาทหากไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกนอกเคหะสถานที่ หรือสถานที่พำนักตามระเบียบของพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
ตามที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อร่วมกับคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดแพร่ (ศปก.แพร่) และคณะกรรมการศูนย์อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่ เพื่อรับทราบสถานการณ์โรคโควิด-19 และร่วมกันพิจารณายกระดับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 กรณีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกนอกเคหสถาน การปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม และกรณีเดินทางเข้ามาพื้นที่จังหวัดแพร่จากพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนถึง 12 พฤษภาคม 2564 โดยจังหวัดจะออกคำสั่งและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
สถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดแพร่ ข้อมูล ณวันที่ 26 เมษายน 2554 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 1 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 70 ราย จากการเฝ้าระวังในระบบบริการ 39 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชนจำนวน 31 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ 40 ราย อยู่ในโรงพยาบาลแพร่ 24 ราย อยู่ในโรงพยาบาลสนาม 16 ราย รักษาหายแล้ว 30 ราย
ทางคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติการเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมจำนวน 2 แห่งได้แก่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบริเวณประตูล้านนา ตำบลเด่นชัย จังหวัดแพร่ ความจุจำนวน 60 เตียง แห่งที่ 2 คือ สโมสรค่ายพระยาไชยบูรณ์ กองพันทหารม้าที่ 12 ความจุจำนวน 60 เตียง ทั้งนี้ สามารถจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามได้ภายใน 3-4 วันหากมีความจำเป็นต้องใช้โรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม
สำหรับการพิจารณาทบทวนมาตรการควบคุมโรคโควิด- 19 ของจังหวัดแพร่ กรณีพิจารณาให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดแพร่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่สำนักปฏิบัติที่ประชุมเห็นด้วยกับการมีคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกนอกเคหะสถานที่ หรือสถานที่พำนักตามระเบียบของพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สั่งให้ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหากไม่สวมใส่
การพิจารณาปิดสถานที่เสี่ยงในพื้นที่จังหวัดแพร่เป็นการชั่วคราวเพิ่มเติมได้แก่โรงภาพยนตร์ สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบลด สระว่ายน้ำสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ศูนย์การเรียนรู้ ห้องสมุดสาธารณะห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน บ้านหนังสือ สถานที่รับเลี้ยงเด็ก และสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน สถานดูแลผู้สูงอายุ โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา สนามพระเครื่อง สถานที่ควบคุมน้ำหนัก คลีนิคเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเสริมความงาม ร้านนวดแผนไทย สนามแข่งขันทุกประเภท ร้านเสริมสวย แต่งผม เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอย แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง ร้านทำเล็บตลาดนัด ทั้งนี้จะมีคำสั่งและประกาศพร้อมรายละเอียดอย่างเป็นทางการต่อไป
การพิจารณาขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหะสถานหรือที่พำนักมติที่ประชุมเห็นชอบคือหลังเวลา 23.00-03.00 น ยกเว้นมีเหตุจำเป็นการพิจารณาแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันโรค covid 19 กรณีเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดแพร่จาก พื้นที่เสี่ยงที่ต้องกักตัว14 วัน จำนวน 30 จังหวัด เพิ่มเติมดังนี้ ของเดิมได้แก่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา นครราชสีมา ขอนแก่น สระแก้ว อุดรธานี ตากและเชียงใหม่ เพิ่มเติมได้แก่สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี เชียงราย อยุธยา ลำพูน นครสวรรค์พิษณุโลก มหาสารคาม กำแพงเพชรสุโขทัย นครศรีธรรมราช ราชบุรี และปราจีนบุรี
ทั้งนี้เพื่อเป็นการหยุดยั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิเ-19 ในจังหวัดแพร่ หลังจากที่มียอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ซึ่งขณะนี้ถือว่ายอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดแพร่เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่งแล้ว
